อดีต คตส.รวมตัวหารือ "นาม" ชี้ปิดทาง "ทักษิณ" ดิ้นฟ้องศาลโลก ระบุเพราะเป็นคดีที่เกิดในประเทศไทย ส่วนการแก้กฎหมาย ป.ป.ช.เป็นหน้าที่รัฐบาล...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้ (2 มี.ค.) ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้นัดรับประทานอาหารพร้อมทั้งหารือผลการทำงานของ คตส. หลังจากศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายึดทรัพย์ และคืนทรัพย์สินบางส่วนให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธาน คตส. รวมทั้งอดีตกรรมการ ตตส. เข้าร่วมประชุมยกเว้น นายแก้วสรร อติโพธิ นายกล้าณรงค์ จันทิก และนางเสาวนีย์ อัศวโรจน์
นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.กล่าวว่า หากทีมทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะอุทธรณ์คดี ก็ต้องอุทธรณ์ภายใน 30 วัน
แต่การอุทธรณ์ในที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ต้องมีข้อเท็จจริงใหม่เท่านั้น ไม่ใช่ข้อกฎหมาย ดังนั้น จึงต้องรอฟังทีมทนาย พ.ต.ท.ทักษิณ อีกครั้งว่า จะอุทธรณ์ในประเด็นใด ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะฟ้องศาลโลก ไม่สามารถทำได้แน่นอน เพราะคดีนี้เป็นการทำผิดในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
“สำหรับผลพวงจากคดียึดทรัพย์ที่มีคดีความทั้งทางแพ่งและอาญาตามมา ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับนักการเมืองและข้าราชการในหลายหน่วยงาน รวมถึงผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจนั้น เป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานที่จะต้องขอสำเนาคำวินิจฉัยของศาลฏีกาไปศึกษา อย่างละเอียด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้รัฐเสียหาย เนื่องจาก คตส.หมดอายุไปนานแล้ว ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นหน้าที่หน่วยงานต้นสังกัดโดยตรง” ประธาน คตส.กล่าว
ด้าน นายสัก กอแสงเรือง คณะกรรมการ คตส. กล่าวว่า ในที่ประชุมได้ข้อสรุปตรงกันว่า คตส. ได้หมดอำนาจหน้าที่แล้ว ไม่อยู่ในฐานะที่จะแถลงอะไรอีก เรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับคดี ก็ขอให้ไปศึกษาคำวินิจฉัยของศาล เพราะมีความครบถ้วน และสำนวนของคตส. ก็ถือว่า ผ่านศาลแล้ว ถ้าจะทำหน้าที่ คือ กรณีคดีเดิมที่ศาลเรียกให้ไปเบิกความ ส่วนที่พรรคการเมืองใหม่ เรียกร้องให้มีการแก้กฎหมาย ป.ป.ช.ให้การยึดทรัพย์รัดกุมขึ้นนั้น เรื่องนี้ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาล หรือฝ่ายนิติบัญญัติ คตส.คงไม่มีหน้าที่อะไรตรงนี้
กรรมการ คตส.กล่าวด้วยว่า ส่วนจากคำพิพากษาถือว่ามีการเปิดช่อง ให้ดำเนินคดีอาญากับนักการเมืองต่อหรือไม่
ขอไม่ให้ความเห็นในเรื่องนี้ ให้เป็นหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องโดยตรง การให้ความเห็นจะถูกมองว่า ชี้นำ หรือหมดหน้าที่แล้ว มาให้ความเห็นเป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่ เพราะวันนี้ คตส.ทุกคนเห็นตรงกันแล้วในเรื่องการยุติบทบาท ทั้งนี้ ไม่ได้มีการหารือเรื่องการถูกข่มขู่ หรือการรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด
คตส.ประกาศยุติบทบาทหลังคดียึดทรัพย์ฯ
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!