ผบ.ทบ.วอนคนไทยสามัคคี ยึดสถาบันเพื่อชาติ

 ชี้คนไทยไม่ยอมรับความรุนแรงแม้กระทั่งปฎิวัติรัฐประหาร สั่งทหารภาคใต้ปฏิบัติตามคำเตือนกระทรวงวิทย์ฯ...

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองหลังจากศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำนวน 4.6 ล้านบาทว่า

อยากให้ทุกคนนึกถึงประเทศชาติ และส่วนรวมของประเทศชาติเป็นหลัก ทำอย่างไรก็ได้ขอให้ประเทศชาติของเราเดินไปข้างหน้าและเดินหน้าต่อไปได้ นอกจากนี้ต้องนึกถึงสถาบันหลักของชาติ สถาบันของศาล ซึ่งจะต้องเชื่อในคำพิพากษาของศาล จากนั้นอยากให้คนไทยนึกถึงความสามัคคีของคนในชาติเป็นหลัก เพราะความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นผลดีต่อประเทศชาติ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสียหายต่อชาติบ้านเมือง

ผบ.ทบ. กล่าวต่อว่า คิดว่าคนไทยโดยส่วนรวมคงเข้าใจว่า จะเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ต้องมีความสงบ มีความสามัคคีของคนในชาติ

ตนยังมองเช่นนั้นอยู่ และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็จะมองเช่นนี้ ว่าคนไทยต้องมีความสามัคคี ต้องไม่มีความขัดแย้ง เพราะสังคมคงไม่ยอมรับความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการปฎิวัติรัฐประหารหรือการใช้ความรุนแรงใดๆ เพราะประชาชนจะไม่ยอมรับในสิ่งเหล่านี้

ส่วนกรณีที่มีการปาระเบิดธนาคารกรุงเทพฯ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่อยากที่จะไปตั้งสมมุติฐาน ใครจะไปทำอะไรคงไม่ดี

ต่อสถานการณ์ขณะนี้ตราบใดที่เรายังไม่รู้ว่าใครทำแน่นอน ก็ต้องหาตัวผู้กระทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องช่วยกันดูแล ส่วนผู้ที่รับผิดชอบก็ต้องหาคนกระทำความผิดให้ได้ถึงจะบอกได้ ส่วนการที่จะไปพูดว่า ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบคงไม่ได้

ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ถึงการใช้เครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 ว่า ก็เป็นไปตามแนวทางที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้แนวทางไว้ ว่าถ้าจะใช้ต้องไม่ให้เกิดผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน และผู้ใช้ต้องรับผิดชอบตนเองด้วยเพราะมีโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดที่จะเป็นอันตรายต่อตัวเอง เรื่องนี้ตนได้แจ้งเตือนไปยังผู้ปฎิบัติแล้ว อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้สั่งให้ปฎิบัติตามที่นายกฯ พูด และยังเก็บสถิติข้อมูลต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่เปรียบเทียบ.