ชทพ.เตือนทหาร สำนึกตน อย่าฉวยโอกาสปฏิวัติ

วอร์รูม ชทพ. ประเมิน วันที่ 26 ก.พ.นี้ ยังไม่มีความรุนแรง หวั่น อนาคตความขัดแย้งทางการเมืองมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น  พัฒนาเป็นสงครามกลางเมือง เรียกร้องทหารสำนึก อย่าฉวยโอกาสยึดอำนาจ..

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 ก.พ. นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงว่า ที่ประชุมแกนนำและวอร์รูมของพรรคชาติไทยพัฒนา ติดตามผลคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยความสนใจและเป็นห่วง  คาดว่าภายหลังการอ่านคำพิพากษาในวันเดียวกันนี้จะไม่มีเหตุรุนแรง แต่หลังจากวันนี้สถานการณ์การเมืองและความรุนแรงจะพัฒนาไปตามผลคดี  สิ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนา มีความกังวลไม่ได้อยู่ที่ความกังวลของจำนวนผู้ชุมนุมที่สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรี แต่กังวลในวิธีการและรูปแบบการชุมนุม เกรงว่ารูปแบบและวิธีการชุมนุมอาจมีความรุนแรง  จึงขอเรียกร้องไปยังแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) ว่าขออย่าได้ใช้ความรุนแรง และขอเรียกร้องไปยังประชาชนทุกฝ่ายให้เคารพและยอมรับในคำตัดสินของศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

นายวัชระ กล่าวต่อว่า คำตัดสินในวันเดียวกันนี้แม้จะเป็นคดีของบุคคลเพียงคนเดียว แต่เป็นคดีประวัติศาศาสตร์ของวงการการเมืองและตุลาการไทย  จะมีแรงกระเพื่อมอย่างมากต่อสถานการณ์การเมือง สิ่งที่กังวลคือคำตัดสินในวันนี้จะเป็นแรงปะทุทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ตนอยากเรียกว่าสงครามการเมือง จะพัฒนาเป็นสงครามกลางเมือง จึงขอเรียกร้องทุกฝ่ายว่าหลังเหตุการณ์วันนี้แล้ว ขอให้ยุติความขัดแย้งให้ได้ ไม่ยุติไม่ได้ มันจะไม่ใช่เรื่องของคนๆเดียว เพราะประชาชนมีความคิดแตกต่างกัน ต่างมองว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูที่ต้องเอาชนะกัน หากภาครัฐและคู่กรณีไม่ยอมยุติสงครามการเมืองจะพัฒนาเป็นสงครามกลางเมือง นอกจากนี้  ขอเตือนเจ้าหน้าที่รัฐ อย่าใช้ความรุนแรงในการปราบปราม และฝากไปยังฝ่ายทหารว่า อย่าใช้เงื่อนไขนี้ในการเปลี่ยนแปลงหรือยึดอำนาจ ขอให้ทหารสำนึกตนและหน้าที่ว่าเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการสร้างความสงบในประเทศ

โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 5 มี.ค. พรรคชาติไทยพัฒนาได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 1 / 2553 ที่อิมแพค เมืองทองธานี  สาระสำคัญในการประชุมใหญ่ครั้งนี้จะมีการพิจารณาถึงเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค การเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารพรรค และแถลงผลงานผู้บริหารพรรคและผลงานรัฐมนตรีของพรรค ยุทธศาสตร์และนโยบายการเมืองที่พรรคจะดำเนินการในปีนี้.