ปณิธานยันรัฐมีแผนรปภ.ก่อนและหลังคดียึดทรัพย์

ปณิธาน” เผย รัฐบาลมีแผน รปภ.รองรับ ก่อน และ หลังวันอ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ ดูแลทั้ง ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการอย่างดี...

วันที่ 25 ก.พ. ที่รัฐสภา นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค. ว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงจะพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สิ่งสำคัญคือ การให้ประชาชนรับรู้ และเข้าใจในเรื่องที่ถูกต้อง ซึ่งนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คอยดูแล และเปิดพื้นที่ให้กับสื่อต่างๆ เข้ามาแสดงความคิดเห็นร่วมกับนักวิชาการ เรื่องนี้หากทุกฝ่ายได้ฟังเหตุผลของศาล และ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น จะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจได้ และอยากให้ทุกฝ่ายตั้งใจฟังและให้โอกาสกระบวนการยุติธรรมในการตัดสิน ยืนยัน รัฐปกป้องดูแลตุลาการทุกคน

เมื่อถามว่า ผู้พิพากษายังคงเก็บตัวอยู่ในเซฟเฮาส์
นายปณิธาน กล่าวว่า เป็นมาตรการปกติ บางท่านอาจจะเดินทางไม่สะดวก บางท่านปกติไม่มีอะไร แต่ระบบที่วางไว้คือให้กับตุลาการ และประชาชนมั่นใจว่า การดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นไปตามกติกา และมาตรฐาน ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมในการดูแล และ สายด่วน 1555 และทยอยรับข้อมูลเพิ่มเติม และมีการประเมินว่าสถานการณ์ขณะนี้ปกติดี ซึ่งทุกฝ่ายในขณะนี้กำลังรอฟังคำพิพากษา และหวังว่าเมื่อฟังแล้วสถานการณ์ จะเริ่มคลี่คลาย เพราะกลไกต่างๆ ที่เริ่มดำเนินการตามที่เราได้วางแผนไว้

เมื่อถามว่า รัฐบาลได้รับทราบข้อมูลด้านการข่าวของการตัดสินคดียึดทรัพย์ในวันที่ 26 ก.พ. อย่างไรบ้าง
นายปณิธาน ตอบว่า ได้วางกำลังเฝ้าระวังตามจุดสำคัญๆ โดยเฉพาะจะเข้าสู่แผนของวันอ่านคำพิพากษา และหลังจากนั้นจะมีแผนหลังจากการอ่านคำพิพากษา ช่วงเวลาการอ่านคำพิพากษา มีการจัดระบบในลักษณะของการประสานงานกันมากขึ้น มีศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าอยู่ที่บริเวณสำคัญ ๆ เช่น ที่ศาล

“นอกจากนี้ยังมีหน่วยเฉพาะกิจหลายหน่วยเข้ามาดูแล อย่างน้อยในเรื่องการจราจรหากมีการชุมนุม หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยบางจุด และจะประสานไปหน่วยท้องถิ่น ภาคประชาชน บรรเทาสาธารณภัยต่างๆ จะมีการเตรียมการอย่างเป็นระบบ จะมีผู้อำนวยการ และผู้บังคับบัญชาเหตุการณ์ที่ชัดเจน ซึ่งเป็นแผนทำงานในวันพรุ่งนี้” นายปณิธาน กล่าว

เมื่อถามว่า หลังจากพิพากษาเสร็จสิ้น และ การรักษาความปลอดภัยขององค์คณะทั้ง 9 คน ยังเหมือนเดิมหรือไม่

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องอยู่ที่การประเมินของวันพรุ่งนี้ และหลังจากนั้นมีแผนรองรับเป็นกรณีและสถานการณ์ไป ส่วนบุคคลในฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และ ฝ่ายตุลาการ ถือว่าการดูแลรักษาความปลอดภัยทำครบและเต็มที่ เพราะการรักษาความปลอดภัย ทำมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีการเพิ่มอะไร แต่ต้องทำให้ดีที่สุด และ ถือว่าขณะนี้เชื่อมั่นได้ว่า บุคคลสำคัญในฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ และ ฝ่ายนิติบัญญัติ ได้รับการดูแลอย่างดีไม่น่ามีปัญหาอะไร