คมชัดลึก :"อนุพงษ์” ลั่น กองทัพไม่ทำปฏิวัติล้านเปอร์เซ็นต์ ชี้กองทัพพร้อมเป็นเครื่องมือรัฐบาลในการดูแลรักษาความสงบของประเทศ แต่ต้องไม่ทำร้ายประชาชน พร้อมยืนยันว่า ผบ.ทบ.คนนี้ไม่มีสี มีแต่สีของชาติ ในวันที่ 26 ก.พ. ไม่มีสงครามกลางเมือง ชื่นชม "อภิสิทธิ์" เก่งเหมาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระบุ “ประยุทธ์”โอกาสสูงนั่ง “ผบ.ทบ.คนที่ 37”
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์“สื่อเครือเนชั่น”
ถึงประเด็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ ที่จะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า “วันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ ผมอยู่ที่กรุงเทพมหานครครับ จะไปไหนได้”
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 200 นาย ออกไปปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยเฉพาะจุดตรวจตามสถานที่ต่างๆ ตามที่มีการประชุมของคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อถามว่า ในที่ประชุม คตม.มีการสั่งจับตาแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างไรบ้าง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่เคยมีการสั่งจับตาในการเคลื่อนไหวอะไรเลย เพราะไม่ใช่หน้าที่ อีกทั้งเห็นว่าการจับตา หรือการติดตามการเคลื่อนไหวจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก
"ผมคิดว่าในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เหตุการณ์ไม่บานปลาย ไม่มีสงครามกลางเมือง เพราะกองทัพมีเครื่องมือในการใช้ห้ามปราม และถ้าสถานการณ์แรงขึ้น รัฐบาลมองว่าควบคุมไม่ได้ เราก็ออกมาช่วยได้ โดยใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ทหารมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ขั้นแรกคือเรื่องห้ามเข้าอาคาร ปิดการจราจรบางส่วน โดยอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ รองนายกฯ สุเทพ" ผู้บัญชาการทหารบกกล่าว
ป๊อกลั่น26ก.พ.คุมอยู่-ย้ำไม่ปฏิวัติชัวร์
สำหรับการพิจารณาตัดสินคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะออกมาเป็นอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้มีหลายคนวิเคราะห์กันถึง 3 แนวทาง แนวทางแรกคือ ยึดทรัพย์ทั้งหมด แนวทางที่สอง คือ ยึดบางส่วน และแนวทางสุดท้ายก็ไม่ยึดทรัพย์เลย
"แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เคยเจอผู้พิพากษาจังหวัดราชบุรี ที่รู้จักกัน ผมก็สอบถามว่าจะเป็นอย่างไรเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ผู้พิพากษาคนดังกล่าวก็บอกความเป็นไปได้คือไม่ยึดทรัพย์ อาจจะยึดบางส่วน แต่รายละเอียดไม่รู้หรอก คำตัดสินคดีดังกล่าวจะต้องใช้วิจารณญาณให้ดี ถ้าคนไม่เข้าใจในเรื่องกฎหมายแล้วไปตีประเด็นผิด ก็จะไปสร้างกระแส" พล.อนุพงษ์กล่าว
ถามว่า กับนายกรัฐมนตรีคนนี้มีการพูดคุยกันบ่อยหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า พูดคุยกันบ่อยๆ นายกรัฐมนตรีคนนี้เป็นคนฉลาด และจับประเด็นได้เก่งมาก มีความรู้ทางด้านการเมืองเป็นอย่างดี ถือว่าเหมาะสมกับตำแหน่งนี้
ส่วนการทำงานของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง มีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจนอยู่แล้ว ยืนยันว่ากองทัพต้องทำไปตามหน้าที่ และบทบาทของกองทัพ รัฐบาลสั่งการอะไรมาโดยไม่ผิดกฎหมาย ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ทำร้ายประชาชนกองทัพก็พร้อมที่จะปฏิบัติอยู่แล้ว ทั้งนี้ประเทศจะไปรอดจะต้องยึดหลักตามกฎหมาย
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวยืนยันว่า มาถึงวันนี้การทำงานระหว่างกองทัพกับรัฐบาลไม่มีปัญหา สามารถทำงานร่วมกันได้ดี ทั้งนายกรัฐมนตรี และรองนายกฯ สุเทพ
หลายคนพยายามบอกว่าตนมีปัญหากับนายกฯ ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรเลย ตนทำงานอะไรก็บอกนายกฯ ตลอด ทำงานด้วยความเข้าใจ คนข้างนอกมองอาจจะมองไม่เห็นแล้วตีความไปต่างๆ นานา “2-3 ปีที่อยู่ในตำแหน่งถือว่าหนักมาก โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนที่หลายคนมองว่า การทำงานในตำแหน่ง ผบ.ทบ.ไม่เหมาะสมนั้น ก็แล้วแต่ แต่ในฐานะที่ผมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว” พล.อ.อนุพงษ์ ระบุ
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่กำลังพลในกองทัพคิดแก้ไขปัญหาด้วยการทำปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวยืนยันว่า ล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่มีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นแน่นอน
แต่ถ้าการชุมนุมไม่ปกติ รัฐบาลก็มีการเตรียมแผนอยู่แล้วคือการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ที่ทหารมีหน้าที่ในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน แต่ถ้าจะให้ทหารออกมาเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ก็จะต้องประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)
"ผมยืนยันอีกครั้งว่า จะไม่มีการทำปฏิวัติรัฐประหารล้านเปอร์เซ็นต์ กองทัพพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการดูแลบ้านเมืองให้เกิดความเรียบร้อย ที่ผ่านมาการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงและเสื้อเหลืองทำให้บ้านเมืองเสียหายมาก ทหารและตำรวจจะต้องไม่มีการแบ่งข้าง หรือแบ่งสี และผมภูมิใจที่ไม่ได้เป็นพวกใคร ผบ.ทบ.คนนี้ไม่มีสี มีแต่สีของชาติเท่านั้น” ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวย้ำ
สำหรับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกคนต่อไปเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก ใช่หรือไม่
พล.อ.อนุพงษ์หยุดคิดก่อนที่จะตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีจุดแข็งอยู่ในตัว การปกครองกองทัพบกจะต้องมีความสะอาด ทำอะไรก็จะต้องจริงใจ และไม่ใช่ว่าอยู่ทำงานไปวันๆ แต่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนที่ตั้งใจทำงานและมีพลังมาก ไม่ได้อยู่นิ่งๆ ถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนใช้ได้ เมื่อตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นหัวหน้าทำการปฏิวัติ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า การทำปฏิวัติรัฐประหารจะต้องมีเงื่อนไข แต่ทหารไม่ต้องการได้อำนาจ เรื่องการปฏิวัติต้องเลิกพูดกันไปได้แล้ว ซึ่งตนไม่ทำอยู่แล้ว เพราะจะเป็นการฝืนความรู้สึก
เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีโอกาสได้เป็นผู้บัญชาการทหารบกร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ถามย้อนว่า มีอะไรร้อยเปอร์เซ็นต์บ้างล่ะ แต่ก็มีความเป็นไปได้