ผบ.ทบ.ไม่เชื่อวิทยาศาสตร์

การที่ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ยกทีมคณะใหญ่ของกองทัพบกออกมาแถลงข่าวถ่ายทดสอดทางโทรทัศน์ช่อง 5 คล้ายๆ กับเป็นการยึดจอโทรทัศน์เพื่อที่จะงัดข้อกับนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้นเป็นภาพที่ไม่สวย

ถึงแม้ว่า พล.อ.อนุพงษ์ จะมั่นใจว่า จีที200 นั้นในทางปฏิบัติใช้ได้ ซึ่งตรงกันข้ามกับผลการตรวจสอบของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ ยืนยันว่าถูกต้อง นั่นแปลว่าต้องหยุดใช้หรือระงับการซื้อและต้องหาสิ่งอื่นมาทดแทน คุณอภิสิทธิ์ บอกว่า ที่กองทัพสะท้อนคือประสบการณ์จากผู้ใช้ แต่ในเชิงนโยบายเมื่อเราได้ทดสอบ วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้ว เราก็ต้องเชื่อผล

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ บอกว่า "นายกฯ พูดถึงผลจากการทดลองในห้องแล็บ แต่กรณีผมทำให้ประชาชนทราบว่าทำไมถึงซื้อ โดยเอาประสบการณ์จากผู้ปฏิบัติ" ฟังอย่างนี้เห็นชัดเจนว่า ผบ.ทบ.กำลังจะดื้อดึงไม่เชื่อในหลักวิทยาศาสตร์ ความเสี่ยงของประชาชนโอกาสที่ประชาชนผู้ไร้เดียงสาถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนเพราะใช้จีที200 โดยไม่มีหลักการ เป็นเรื่องใหญ่ที่ผู้นำกองทัพจะต้องเข้าใจ เพราะว่าถ้าอ้างว่าในทางปฏิบัติใช้ได้ผล แต่ในทางทดสอบไม่ได้ผล สิ่งที่กองทัพจะอ้างได้มีเพียงความเชื่อตัวเองของผู้ใช้เท่านั้น อย่างนี้ย่อมถือว่าเป็นการถือทิฐิ ถ้าไม่เชื่อว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลในการสั่งซื้อ

ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์ ก็ยืนยันว่าพร้อมจะให้ตรวจสอบ และถึงแม้ว่าจะใช้ได้ 100% ถ้าหากมีเรื่องครหานินทาว่าด้วยคอรัปชั่นในการจัดซื้อ ก็ต้องตรวจสอบ แต่ในสายตาของประชาชนทั่วไป เหตุผลและตรรกของแม่ทัพบกนั้นไม่น่าจะฟังขึ้น เพราะว่าได้ใช้เงินไปประมาณ 800 ล้านบาท เมื่อพิสูจน์ว่าใช้ไม่ได้ผลก็สะท้อนว่ากองทัพบกและหน่วยราชการอื่นๆ นั้นได้ซื้ออุปกรณ์นี้มาโดยไม่มีการทดสอบใช้ก่อน

นอกจากจะต้องหาทางเอาเงินคืนจากบริษัทที่ขาย และตรวจสอบว่าการจัดซื้อมีเรื่องโกงกินหรือไม่ กองทัพบกยังต้องออกมาขอโทษประชาชนที่กลายเป็นเหยื่อยของจีที200 ขณะเดียวกันก็จะต้องหาอุปกรณ์ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าใช้เงินภาษีประชาชนแล้วใช้ได้ประโยชน์อย่างจริงจัง งานนี้ ผบ.ทบ.ตัดสินใจผิดพลาดที่ออกมาเผชิญหน้ากับนายกรัฐมนตรี ในเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ข้างหลักวิทยาศาสตร์ หลักสิทธิมนุษยชน ไม่เชื่อว่าถ้าหากกองทัพดื้อดึงต่อไปจะเป็นผลดีแต่ประการใดทั้งสิ้น เพราะนี่พิสูจน์ด้วยหลักการมิใช่ด้วยความเชื่อ หรือการรักษาหน้าของตนเองแต่ประการใดทั้งสิ้น สุทธิชัย หยุ่น