ที่หอประชุมกองทัพบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.วิโรจน์ บัวจรูญ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพบก
และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 พล.อ. ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท. เอกชัย วัชรประทีป เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก พล.ต.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เจ้ากรมยุทธการทหารบก พล.ต.ศุภกร สงวนชาติศรไกร เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก และ น.อ.สมภพ ปีตะเสน หัวหน้ากองทำลายวัตถุระเบิด กรมสรรพาวุธทหารอากาศ เปิดแถลงข่าวหลังจากนายกรัฐมนตรีสั่งระงับการจัดซื้อจีที 200 เนื่องจากผลการทดสอบประสิทธิภาพ ไร้ประสิทธิภาพ
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ความต้องการเกิดจากผู้ปฏิบัติ เพราะใช้ได้ผล แต่จะสามารถชี้แจงทางวิทยาศาสตร์ได้หรือไม่
ไม่ทราบ เพราะประสบการณ์ทั้งหมดประมาณ 300 กว่าครั้งที่ทำได้ นั่นเป็นปัญหาของความต้องการที่เกิดขึ้น และถ้าผู้บังคับบัญชาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นส่วนยุทธการ ซึ่งเป็นผู้กำหนดความต้องการ ส่งมาให้อนุมัติตั้งแต่ปี 48 เป็นต้นมา ถ้าผมไม่อนุมัติลองนึกว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาจะมองกองทัพบก และครอบครัวของผู้ใต้บังคับบัญชาที่เสียชีวิต จะมองกองทัพบกอย่างไร
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่าใช้สุนัขหรือไฟโด้แทนว่า
ขอยกตัวอย่างว่าในกรณีที่การข่าวพบว่ากระสุน วัตถุระเบิด ถ้าจะใช้สุนัขต้องตรวจทุกบ้าน ทุกห้อง สุนัขไปยืนอยู่ปากประตูบ้านแล้วไม่สามารถบอกได้ว่าบ้านนี้มีหรือไม่ อีกทั้งยังขัดกับวิถีของมุสลิม หรือแม้กระทั่งไฟโด้ ไม่สามารถดำเนินการได้ ไอออน สแกน ต้องนำเสื้อที่เปื้อนแล้วเอาไปเข้าเครื่อง จึงต้องนำเสื้อทุกตัวในบ้านมาพิสูจน์
“ผมเคารพผลทดสอบทางวิทยาศาสตร์ เขาบอกว่าใช้ไม่ได้ แต่เขาพูดว่า ไม่มีอะไรตอบทางวิทยาศาสตร์ได้ เขาถึงให้ทดสอบ เมื่อผลทดสอบออกมาชัดเจนอย่างนี้ เขาถือว่าใช้ไม่ได้ สิ่งที่กองทัพบกเอามาเรียนให้ฟัง คือคนที่ทำงาน เขามีประสบการณ์ ใช้ได้ ก็ต้องเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบว่า เป็นอย่างนี้ ส่วนที่มีคำถามว่า ถ้าซื้อแล้วใช้ไม่ได้ เพราะมีการทุจริต ขอเรียนว่าต่อให้ใช้ได้ 100% เพราะถ้าทุจริต จะต้องดำเนินคดีตามกระบวนการ กฎหมาย ป.ป.ช. สตง. หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการได้หมด ทบ. พร้อมให้ตรวจสอบในการจัดซื้อ จัดจ้าง ไม่มีข้อโต้แย้งทั้งสิ้น เป็นหน้าที่ของสื่อ และผู้ตรวจสอบจะต้องตรวจสอบ ผิดก็ลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นผม หรือผู้แทนผู้บังคับบัญชาทุกคน ประชาชนจะได้สบายใจเรื่องความโปร่งใส”พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
บิ๊กป๊อกสั่งให้ใช้ต่อจีที200ยืนยันทำงานได้ผลดี
เมื่อถามว่า ส่วนจะใช้ต่อไปหรือไม่นั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ในชั้นต้นรัฐบาลยังไม่ได้สั่งห้ามไม่ให้กองทัพบกใช้ และทบ.ยังไม่มีเครื่องทดแทน
จึงอนุญาตให้ใช้ได้ต่อไปก่อน และจะประเมินผลให้ละเอียดในการปฏิบัติงาน และจะขอให้กระทรวงวิทย์ฯ จัดชุดชี้แจงแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ให้ผู้ใช้ได้ทราบ และจะลงไปดูการปฏิบัติจริง รวมทั้งจะใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์อะไรไปวิเคราะห์ว่าใช้ได้ หรือไม่ได้อย่างไร
เมื่อถามว่า กองทัพบกจะชะลอการจัดซื้อ รวมทั้งจะใช้เครื่องจีที 200 ที่มีอยู่จนหมดสภาพหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า หากมีการทุจริตต้องโดนอยู่แล้ว
แต่หากไม่ควรซื้อ แล้วทำไมถึงซื้อ วันนี้เอาคำตอบมาให้แล้ว ว่าจากประสบการณ์การทำงานเป็น 300-400 ครั้ง จะไม่เอาไปคิดไม่ได้ เพราะนั่นคือที่มาของความต้องการ และหากกองทัพบกไม่ซื้อให้ใน 3 ปีที่ผ่านมา คงต้องบริภาคตนเป็นเวลา 3 ปีแน่นอน ส่วนจะซื้อต่อหรือระงับการซื้อ หากไม่มั่นใจ จะไม่ซื้อ และทำอย่างไรถึงจะไปอธิบายผลทางแล็บให้เข้าใจว่า เครื่องใช้ไม่ได้โดยจะให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปชี้แจงกำลังพลว่า เกิดจากความเป็นไปได้ ขณะเดียวกัน จะพาเจ้าหน้าที่ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯไปร่วมตรวจด้วย
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า การออกมาแถลงวันนี้ไม่ได้โต้เถียงหรือแก้ตัว แต่การจัดซื้อจีที 200 ประชาชนสนใจ
คือ เรื่องทุจริต ขอย้ำว่าหากตรวจเจอไม่ว่าจะเป็นตนหรือคนอื่น สามารถดำเนินการได้ทุกองค์กรที่เข้ามาตรวจสอบ เพื่อประชาชนจะได้สบายใจ ขณะที่นายกรัฐมนตรีพูดอีกแบบแล้ว ผบ.ทบ. พูดอีกแบบ อย่างนี้ประชาชนจะเชื่อใคร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า นายกฯพูดถึงผลจากการทดสอบการใช้เครื่องจีที 200 โดยนักวิทยาศาสตร์ในห้องแล็บว่าทำงานได้ 4 ครั้ง ต่อ 20 ครั้ง ถือว่าใช้ไม่ได้ แต่กรณีตนทำให้ประชาชนทราบว่าทำไมถึงซื้อ โดยเอาประสบการณ์จากผู้ปฏิบัติว่า เป็นอย่างไร ดังนั้น ต้องเชื่อทั้ง 2 คน
เมื่อถามว่า การออกมาแถลงข่าวเหมือนยืนตรงข้ามกับนายกฯ ที่เชื่อผลทางวิทยาศาสตร์ อาจทำให้ประชาชนไม่สบายใจระหว่างรัฐบาลกับกองทัพมีปัญหากัน
พล.อ. อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนพูด แต่ตนว่ารับผลการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ แต่มาบอกว่าตนอยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล ไม่ใช่เลย ตนรับทั้งหมดทั้งสิ้น แต่ที่นำผู้ปฏิบัติงานมาแถลงข่าวในวันนี้ เพื่อเป็นการชี้แจงให้ประชาชนทราบว่าทำไมถึงซื้อ แต่ไม่ได้ยืนตรงข้ามกับนายกฯ ตนยอมรับ และไม่ได้ไปโต้แย้ง
เมื่อถามว่า หากเครื่องใช้ไม่ได้จะฟ้องร้องบริษัทหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย
แต่เป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงว่า จะฟ้องหรือไม่ฟ้อง เพราะส่วนหนึ่งลูกน้องบอกว่าสามารถใช้การได้ หากบริษัทบอกว่าพยานยืนอยู่ข้างหลัง ตรวจสอบแล้วเจอจะว่าอย่างไร ส่วนมีการถามถึงขวัญกำลังใจกำลังพลในพื้นที่หลังผลสอบจีที 200ไร้คุณภาพหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดกับหน่วยในพื้นที่ และวันที่ 19 ก.พ.นี้ จะเดินทางลงพื้นที่ ซึ่งจะทราบว่าเป็นอย่างไร ส่วนจะเป็นการเลื่อยขาเก้าอี้ ผบ.ทบ. หรือไม่นั้น พล.อ. อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น แต่การออกมาเปิดเผยเป็นเรื่องดีของประเทศที่เปิดความจริงให้คนอื่นรู้ และตนก็อยากรู้ เพราะในโลกนี้ไม่มีอะไร 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว