ตบเท้าซดหูฉลาม ให้กำลังใจล้น เติ้งแนะรัฐต้องระวัง

แกนนำพรรคร่วมตัวจริงตบเท้าซดหูฉลาม "บรรหาร" เป็นห่วงแนะรัฐบาลต้องระวัง "สมศักดิ์" เล่นลิ้น "เติ้ง" ไม่เคยหักหลังใคร "สุเทพ" อ้างแกนนำพรรคร่วมให้กำลังใจเต็มปรี่ ...

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 18 ก.พ. แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้นัดทานอาหารกลางวันร่วมกันที่ห้องอาหารจีน เดอะไชน่า เฮ้าส์ โรงแรมโอเรียลเต็ล

โดยมีนายสุวิทย์ คุณกิตติ แกนนำพรรคกิจสังคมเป็นเจ้าภาพ ขณะที่แกนนำพรรคร่วมประกอบด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นายเนวิน ชิดชอบ มาพร้อมนางกรุณา ชิดชอบ และนายสรอรรถ กลิ่นประทุม แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายพินิจ จารุสมบัติ และนายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน ขณะที่พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาส่ง นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาเป็นตัวแทนเข้าร่วม โดยไม่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ติดภารกิจตอบกระทู้ถามในที่ประชุมสภาฯ

นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวก่อนเข้าร่วมรับประทานอาหารว่า คงมีการประเมินสถานการณ์บ้านเมืองกันเล็กน้อย

เชื่อว่าสถานการณ์ไม่น่ามีความวุ่นวาย เหตุการณ์รุนแรงคงไม่เกิดขึ้น เมื่อถามว่าในวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายบรรหาร กล่าวว่า ต้องดูผลคดีก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ยังตอบไม่ได้ เมื่อถามว่าในฐานะที่มีประสบการณ์การเมืองมานาน มองเหตุการณ์แบบนี้ออย่างไร นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ต้องระมัดระวังเอาไว้ รัฐบาลต้องระวัง ดูให้หมดทุกๆด้าน ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังติดใจเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ต้องคุยกันก่อนว่าจะต้องทำอย่างไร ซึ่งในโต๊ะกินข้าวอาจจะมีการคุยเรื่องนี้หรือไม่มีก็ได้ เมื่อถามว่า นายกฯไม่มาร่วมด้วย นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ไม่ใช่ว่านัดนายกฯแล้วไม่มา แต่เรานัดพบปะกับพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น

ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กล่าวก่อนเข้าร่วมรับประทานอาหารว่า การหารือวันนี้เรื่องรัฐธรรมนูญหนีไม่พ้นที่ต้องหยิบยกขึ้นมา

ยืนยันว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐสภา ต้องแยกออกจากการบริหาร เชื่อว่าไม่มีประเด็นนำไปสู่ความขัดแย้ง เมื่อถามว่าการที่นายกฯไม่เดินทางมาร่วมรับประทานอาหารด้วยมาส่งผลอะไรหรือ ไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หลายครั้งนายกฯไม่มาก็ไม่เป็นไร วันนี้ทุกพรรคเข้าใจกันดี ไม่มีอะไรที่ไม่เข้าใจ ส่วนการเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯครั้งนั้น ตนก็ไม่ได้เคืองอะไรแล้วและครั้งหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นเจ้าภาพ ถ้านายกฯเชิญมา ตนก็ไปร่วม เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยระบุว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยก็พูดไป แต่พวกเราไม่มีใครพูด "หากใครรู้จักนายบรรหาร ศิลปอาชา และชุมพล ศิลปอาชาจะทราบว่าทั้งสองคนไม่เคยทรยศหักหลังใคร ยืนยันว่าจะทำงานร่วมกันอยู่ หากถึงเวลามีการเปลี่ยนแปลงก็ว่ากันใหม่"

ด้านนายสุเทพ กล่าวภายหลังการร่วมรับประทานอาหารว่าว่า ไม่มีการคุยเรื่องสถานการณ์การการเมือง ซึ่งตนได้เรียนให้ผู้ใหญ่ที่เคารพทราบถึงสถานการณ์การเมืองว่ารัฐบาลเตรียม รับมืออย่างเต็มที่

ยืนยันว่ารัฐบาลตั้งใจจะคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีที่สุดเพื่อรักษาบ้านเมือง เอาไว้ ซึ่งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลก็เข้าใจ และสบายใจ พร้อมให้ศีลให้พร แก้ปัญหาให้ดีที่สุด เพราะก็รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองเหมือนที่ประชาชนมีความเป็นห่วง อยู่ในขณะนี้ ในวันนี้ไม่มีการพูดถึงการแก้รัฐธรรมนูญแม้แต่คำเดียว เมื่อถามว่ามีการสอบถามเรื่องการปฏิวัติหรือยุบสภาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีการถามเรื่องปฏิวัติและยุบสภาฯ มีแต่ให้ศีลให้พรและเอาใจช่วยให้ตนทำงานต่อไป และขอให้ตนอดทน อดกลั้น เมื่อถามย้ำว่าหลังจากวันที่ 26 ก.พ.นี้คิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังคงเหนียวแน่นอยู่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวสั้นๆว่า เหนียวแน่นครับ

นายสุวิทย์ คุณกิตติ ที่ปรึกษาพรรคกิจสังคม ในฐานะเจ้าภาพการเลี้ยงครั้งนี้กล่าวว่า ไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมือง เป็นเพียงการหารือทั่วไป

ซึ่งการทำงานของรัฐบาลก็ยังไปได้ แต่นายบรรหารก็มีความเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ่น แต่คิดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาไปได้ ไม่มีการพูดถึงเรื่องรัฐธรรมนูญเพราะญัตติดังกล่าวอยู่ในสภาฯแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าการรับประทานอาหารร่วมกันครั้งนี้ใช้ เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง โดยมีเมนู ประกอบด้วย หูฉลาม เป๋าฮื้อตุ๋นน้ำแดง ห่านปักกิ่ง ปลาเก๋าน้ำซอส ข้าวผัดตั๋งก๋วย รังนกแป๊ะก๊วย สนนราคาโดยรวมกว่า 71,000 บาท โดยนายสุเทพได้เดินทางกลับเป็นคนแรก ขณะที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหลายคนกล่าวในทำนองเดียวกันว่านายสุเทพ ได้มาแจกแจงขั้นตอนการรับมือกับสถานการณ์ความไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้นให้รับทราบ แต่ไม่มีการลงในรายละเอียดว่ากลุ่มเคลื่อนไหวจะก่อเหตุในจุดใดเฉพาะเจาะจง.