´บรรหาร´ สลดไทยรักไทยตกต่ำ

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่พรรคชาติไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า ถ้าคะแนน 100 ตนให้ 95 คะแนน เพราะถือว่า ครม.ชุดนี้มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย ซึ่งหาไม่ได้อีกแล้ว เป็น ครม.ที่แตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเป็นนักธุรกิจ แต่ชุดนี้เป็นอดีตข้าราชการที่มีประสบการณ์มาก ส่วนที่มีหลายฝ่ายวิจารณ์เรื่องรัฐมนตรีบางคนนั้นตนเห็นด้วยกับ

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีที่ว่าจะเอาให้บริสุทธิ์ทั้ง 100% เป็นไปได้ยาก เพราะบุคคลมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่หากมีข้อดีมากกว่าก็ถือว่าใช้ได้ รัฐบาลที่ผ่านมาคนที่เข้ามาบริหารส่วนใหญ่เป็นนายทุนทั้งหมด ถือว่ารัฐบาลชุดนี้เจ๋ง ดีเกือบทุกคน หายาก อีกอันที่ทึ่งมากต้องชมว่าท่านนายกฯตาแหลมเอาช้างเผือกมาจากไหนไม่รู้ คนเหล่านี้มาจากราชการ เมื่อมาเป็นรัฐมนตรีว่าการคงจะต้องทำงานให้รอบคอบมากกว่าเดิม กระชับ รวดเร็ว เร่งรัด

นายบรรหารกล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญที่เห็นว่ารัฐบาลต้องให้ความสำคัญคือการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยต้องพิจารณาให้รอบคอบในประเด็นต่างๆ และนำข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญปี 2540 มาปรับปรุง เช่นการเลือกวุฒิสภา หากมีการเลือกตั้งเหมือนที่ผ่านมาก็อาจเกิดปัญหาทำให้วุฒิสภามีที่มาไม่ต่างจาก ส.ส. ส่งผลต่อหน้าที่ที่ต้องเข้ามากลั่นกรองกฎหมาย

อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มีส่วนดีหลายอย่าง แต่ที่ผ่านมาเกิดปัญหาคนใช้นำไปใช้ไม่ถูกต้องเท่านั้น เมื่อถามว่านักการเมืองควรเข้าไปมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า หากจะนำนักการเมืองเข้าไปก็จะเกิดปัญหาว่ามีเกณฑ์เลือกอย่างไร ดังนั้น นักการเมืองอาจมีส่วนร่วมในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ ทั้งนี้เห็นว่า นพ.ประเวศ วะสี เป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่จะเข้าไปช่วยเสนอแนะรายละเอียดได้

นายบรรหารกล่าวถึงอนาคตทางการเมืองของพรรคไทยรักไทยที่ยังไม่มีใครยอมรับที่จะเป็นรักษาการหัวหน้าพรรคว่า ผมแปลกใจที่ไม่มีใครยอมรับเป็นหัวหน้าพรรคในยามที่พรรคมีปัญหา ไม่เหมือนช่วงที่พรรคไทยรักไทยรุ่งเรือง ทำไมไม่มีใครใจถึง ยามดีมีวาสนา

โอ๊ย ก้อร่อก้อติกจริงๆเลย ท่านครับดีครับ พอถึงตรงนี้แล้วหายหมด ตีจากกันแบบนี้ เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าไปร่วมทานอาหารกับแกนนำกลุ่มต่างๆของพรรคไทยรักไทย นายบรรหารกล่าวว่า เป็นแค่ข่าว เขียนกันไปเอง ไม่เคยไปกินกับใคร ยังไม่เคยคุยกับใคร ไม่ได้ รับใครเข้ามาสักคน

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ