บี้นายกฯจับมือยิงเอ็ม79-ซุกซีโฟร์ข้างศาล จวก รบ. ใช้คนมีสีสร้างสถานการณ์ปูพรมใช้หฎหมายพิเศษ
วันนี้(15 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เข้ายื่นหนังสือถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผ่านทางเจ้าหน้าที่กองรับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบต่อคำพูดที่เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลเงินสนับสนุนผู้ชุมนุม หลังจากที่ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหอกออกมาเปิดประเด็น เปิดเผยเส้นทางการเงิน และทางพรรคประชาธิปัตย์รวมทั้งแกนนำรัฐบาลก็ออกมาเปิดเผยอักษรย่อ จนกระทั่งนายกฯเองก็ออกโรงมายืนยัน มีการกระพือกันเป็นระยะๆ และล่าสุดมีลักษณะการปูพรมเพื่อให้ก่อให้เกิดความรุนแรง
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายกฯในฐานะเป็นผู้บริหารประเทศจะต้องเป็นผู้บริหารให้ความขัดแย้งลดลง แต่ขณะนี้กลับสุมไฟเพิ่มความขัดแย้งเสียเอง มีการออกมาพูดเส้นทางการเงิน รวมกับการใช้กำลังต่าง ๆ รวมทั้งมีเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาลเข้าไปในพาณิชย์พระนคร และยังมีการซุกระเบิดข้างรั้วศาลฎีกา ทำให้เชื่อได้โดยบริสุทธิ์ใจว่าน่าจะมีกระบวนการที่จะนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายพิเศษ โดยที่รัฐบาลจะใช้ทั้ง พ.ร.บ.ความมั่นคง และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพและสกัดประชาชนที่จะมาชุมนุม ซึ่งอาจจะนำมาใช้ก่อนวันที่ 26 ก.พ. และหลังวันที่ 26 ก.พ. อาจจะมีกฎหมายพิเศษออกมาอีก ซึ่งแม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่ชอบนายกฯหรือคิดต่าง รวมทั้งต่อต้านรัฐบาลแต่ก็เป็นการดำเนินการตามระบอบประชาธิปไตย และยึดหลักการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญ ม. 63 ที่สำคัญเป็นคนไทยที่มีสิทธิ 1 เสียงเท่ากัน อย่าไปกล่าวร้ายประชาชนโดยไม่มีข้อเท็จจริง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า นายอภิสิทธิ์ จะต้องหาพยานหลักฐานในการสร้างสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่พณิชยการพระนครหรือการซุกระเบิดข้างศาลฎีกา ต้องดำเนินากรหาคนทำผิดมาลงโทษให้ได้ ไม่เช่นนั้นตนจะมองว่ารัฐบาลนี้ไร้น้ำยาและบริหารราชการแผ่นดินแบบล้มเหลว ประชาชนพึ่งไม่ได้ คนที่ทำเป็นคนมีสี เพราะคนธรรมดาคงไม่มีใครที่จะมีอาวุธสงคราม เอ็ม 79 หรือชาวบ้านธรรมดาคงจะไม่มีระเบิดซีโฟร์ไปซุกอยู่ข้างศาลฎีกาและน่าจะมีการตรวจสอบแจ้งกันก่อนที่จะไปพบ เป็นการสร้างสถานการณ์อย่างเห็นได้ชัด