สุวิทย์ปากเก่ง ไม่หวั่นเขมร ขู่ฟ้องศาลโลก

"สุวิทย์" ไม่หวั่น "กัมพูชา" ขู่ฟ้องศาลโลกข้อพิพาทเขาพระวิหาร  ระบุ การขึ้นทะเบียนมรดกโลกยังไม่สมบูรณ์ รอสองประเทศปักปันเขตแดน ชี้ สถานการณ์ชายแดนยังไม่น่าห่วง

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 11 ก.พ.  นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

กล่าวกรณี รัฐบาลกัมพูชาเตรียมยื่นฟ้องศาลโลก พื้นที่ทับซ้อนบริเวณเขาพระวิหาร ว่า จากการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งสุดท้าย ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เพราะขอบเขต และแนวพื้นที่กันชนยังไม่มีความชัดเจน จะต้องมีการดำเนินการปักปันชายแดน เพื่อกำหนดแนวเขตท่ชัดเจนก่อน  ถือเป็นหัวใจสำคัญ ขณะนี้คณะกรรมการปักปันเขตแดน หรือ เจบีซี ยังไม่ได้มีการพูดกันในรายละเอียด  การขึ้นทะเบียนจึงต้องรอออกไปอีกสักระยะ เท่าที่ตรวจสอบข้อมูลกับเลขานุการคณะกรรมการมรดกโลก  การส่งรายงานต่างๆ ยังไม่เรียบร้อย  ยังไม่ได้มีการส่งตามกำหนดระยะเวลา การปักปันเขตแดนต้องทำให้เกิดความชัดเจนก่อน จากความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายระหว่างไทย กับ กัมพูชา ที่ต้องเร่งให้เกิดความชัดเจน

นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า เรื่องของศาลโลกได้ข้อยุติไปนานแล้ว แม้ว่าไทยจะไม่ยอมรับและได้ส่งหนังสือทักท้วงไปยังสหประชาชาติ

แต่ในฐานะประเทศเพื่อบ้านจำเป็นต้องหาวิธีหันหน้าเข้าหากัน เพื่อหาข้อยุติที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศได้ ขณะนี้ขั้นตอน เจบีซี ก็เร่งดำเนินการ ที่ผ่านมามีการประชุมบ่อยครั้งกับกัมพูชา ล่าสุดรัฐสภาได้อนุมัติกรอบการเจรจาไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถือเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อระดับนโยบายเกิดผลกระทบ การปฏิบัติในระดับล่างอาจชะงักงันไปบ้าง เชื่อว่าในส่วนของผู้ดำเนินการข้างล่างไม่น่าจะมีปัญหา แต่คงต้องใช้เวลา เพราะเรื่องเขตแดนเป็นปัญหาใหญ่ ที่ต้องเป็นไปตามกติกาสากล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวต่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ยังตึงเครียดว่า ต้องค่อยเป็นค่อยไป

เพราะสุดท้ายการเจรจาจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ในส่วนของคณะกรรมการมรดกโลกก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะได้ติดตามตลอดเวลา หลังจากกลับจากการประชุมที่สเปนแล้ว ได้ส่งหนังสือไปยังผู้อำนวยการยูเนสโก ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมกรมรดกโลก เพื่อรายงานขึ้นตอนการดำเนินการทั้งหมด ซึ่งไทยและกัมพูชา ต่างก็เป็นกรรมการมรดกโลก แต่ในปีนี้ประเทศไทยได้รับเลือกเป็นรองประธานกรรมการมรดกโลก ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าคณะคงจะได้ดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นให้มีประสิทธิภาพ มีความเป็นธรรม และไม่ให้เกิดผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตยและเขตแดน  การประชุมครั้งต่อไปประมาณเดือน มิ.ย.-ก.ค.ที่ประเทศบราซิล  ในช่วงนี้คณะผู้แทนของไทยได้ติดตามความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วง