ทักษิณ ต่อสายถึงสุดารัตน์ ระบุยังไม่มีกำหนดกลับไทย

ด้านนายศิธา ทิวารี รักษาการโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้ประชุมอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อเลือกรักษาการหัวหน้าพรรค แต่พูดคุยกันระหว่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองหัวหน้าพรรค คาดว่าความชัดเจนของผู้ที่จะมารักษาการหัวหน้าพรรคในสัปดาห์นี้

นายศิธา กล่าวว่า ที่คุณหญิงสุดารัตน์ อดีตรองหัวหน้าพรรค ลำดับที่ 1
ไม่รับตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรค

เพราะเห็นว่า ขณะนี้การดำเนินกิจกรรมไม่ใช่การรณรงค์หาเสียงจึงควรเป็นเรื่องของนักกฎหมาย ไม่ใช่กลัวถูกตรวจสอบทรัพย์สินจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)

เนื่องจากทุกโครงการที่ดำเนินการสมัยเป็นรัฐมนตรีมีความโปร่งใส และคุณหญิงสุดารัตน์ กับนายสมยศ ลีลาปัญญาเลิศ สามี ได้แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถูกต้องตลอด



คุณหญิงสุดารัตน์ ยังยืนยันว่าในสถานการณ์เช่นนี้จะไม่ทิ้งพรรคไทยรักไทย แต่เมื่อเหตุการณ์ปกติ เป็นไปได้จะเว้นวรรคทางการเมือง รักษาการโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าว

นายศิธา กล่าวว่า ล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรค ได้โทรศัพท์มาหาคุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า ไม่มีกำหนดกลับประเทศไทยช่วงนี้ และแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง พร้อมกำชับให้สมาชิกพรรคให้ความร่วมมือกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และรัฐบาลอย่างเต็มที่ ส่วนกิจกรรมของพรรคให้ชะลอไว้ก่อนเมื่อเกิดความเชื่อมั่นในต่างประเทศ บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติค่อยมาว่ากัน

นายศิธา กล่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้นปี 2548 ส่วน 7-8 โครงการ ที่ถูกตรวจสอบเป็นโครงการต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2545-2547 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือก แม้ตัวเลขรับจำนำข้าวเปลือกจะเกี่ยวพันมาถึงสมัยที่คุณหญิงสุดารัตน์ เป็นรัฐมนตรี แต่เป็นเรื่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมชี้แจงทั้งหมด



ส่วนโครงการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุข หลังจากมีข้อร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใส ทั้งอัยการสูงสุดและกรมบัญชีกลางเสนอความเห็นยกเลิกโครงการ คุณหญิงสุดารัตน์ ก็ยกเลิกโครงการทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะการประมูลเท่านั้น จึงไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างเกิดขึ้น ถือว่าไม่เสียผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนแม้แต่บาทเดียว นายศิธา กล่าว

รักษาการโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า
หากใครพบเบาะแสว่ามีอดีต ส.ส.ของพรรค เคลื่อนไหวลักษณะดังกล่าวขอให้แจ้งมายังพรรค เพราะพรรคไม่มีแนวคิดต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคง และรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แต่จะใช้กลไกแจ้งให้สมาชิกทราบว่าบ้ านเมืองต้องการความสมานฉันท์และขอให้ความร่วมมือกับคณะมนตรีความมั่นคง และว่าจากการตรวจสอบไม่พบความเคลื่อนไหวดังกล่าว แต่การข่าวของทหารอาจลึกกว่าก็เป็นได้



ทั้งนี้ กองโฆษกพรรคไทยรักไทยได้ออกแถลงการณ์ ว่า ภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากหัวหน้าพรรค ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคต้องพ้นจากตำแหน่ง และเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ขึ้น ภายใน 45 วัน

แต่ติดเงื่อนไขประกาศกฎอัยการศึก ห้ามชุมนุมและประชุมทางการเมือง จึงไม่สามารถเรียกประชุมได้ ทำให้การให้ข่าวใด ๆ ของอดีต ส.ส. พรรค ควบคุมได้ค่อนข้างยาก และข่าวที่ออกมาไม่เป็นทิศทางเดียวกัน

อีกทั้งช่วงเวลานี้ละเอียดอ่อนในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง อันจะส่งผลกระทบต่อพรรค ดังนั้น จากนี้ไปการให้สัมภาษณ์ หรือการแสดงความเห็นของบุคคลใด ไม่ใช่ออกมาในนามพรรค แต่เป็นความเห็นส่วนตัวของบุคคลนั้น การแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงใด ๆ ในนามพรรค จะสื่อสารผ่านรักษาการหัวหน้าพรรค และรักษาการโฆษกพรรคเท่านั้น

รู้สึกแปลกใจที่ไม่มีใครยอมรับเป็นหัวหน้าพรรคในยามที่พรรคมีปัญหา ไม่เหมือนช่วงที่พรรคไทยรักไทยรุ่งเรือง


ทำไมไม่มีใครใจถึง บทยามดีมีวาสนา ก้อร่อก้อติดจริง ๆ เลย ท่านครับดีครับ พอถึงตรงนี้แล้วหายหมด ตีจากกันแบบนี้ ผมก็ไม่รู้ เป็นเรื่องของพรรคไทยรักไทย ไม่อยากพูดนายบรรหาร กล่าว


เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าไปร่วมรับประทานอาหารกับแกนนำกลุ่มต่าง ๆ ของพรรคไทยรักไทย นายบรรหาร กล่าวว่า เป็นแค่ข่าว เขียนกันไปเอง ไม่เคยไปกินกับใคร ตนยังไม่เคยคุยกับใครหรือไม่ได้รับใครเข้ามาสักคน