ส่อรื้อโผตำรวจ มาร์คฮึ่ม 16ก.พ.ต้องจบ

นายกรัฐมนตรี ส่อรื้อโผตำรวจ หลังพบกรรมการฯที่บ้านพิษณุโลก ระบุให้อำนาจเต็มที่เพราะบางกรณีไม่ส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยันต้องชัดเจนก่อนวันที่ 16 ก.พ.

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 10 ก.พ.53 นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

เดินทางมายังบ้านพิษณุโลกเพื่อหารือนอกรอบกับ พล.ต.อ.วศิษฐ์  เดชกุญชร ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อร้องเรียนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และคณะกรรมการฯ โดยนายกรัฐมนตรีใช้เวลาหารือ 40 นาที 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนไปพบเพื่อเพียงทำความเข้าใจกับคณะกรรมการฯเพราะตอนนี้สิ่งที่คณะกรรมการฯ

รับผิดชอบคือการตรวจสอบกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1,2,4,6 ที่มีการร้องเรียนเข้ามาและตนเล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของการตั้งคณะกรรมการฯ ชุดนี้เพื่อมาดูแลการร้องเรียนที่มีน้ำหนักเพียงพอและสิ่งที่เห็นว่า อาจไม่เหมาะสมที่จะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ตรวจสอบเป็นการภายใน จึงให้คณะกรรมการฯสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นและคณะกรรมการฯเข้าใจภารกิจ รวมทั้งมั่นใจว่าสามารถทำงานได้เต็มที่  หากมีอุปสรรใดๆก็ขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลได้โดยมี พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกฯเป็นผู้ประสานงาน  ส่วนกรอบเวลาที่กำหนดไว้นั้น ตนอยากให้ทุกอย่างชัดเจนก่อนวันที่ 16 ก.พ. ซึ่งคณะกรรมการหนักใจเล็กน้อยเต่ก็เข้าใจเเละจะทำให้ดีที่สุดอย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังมีข้อมูลร้องเรียนเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งนี้จะดูว่าข้อมูลนั้นๆจะส่งให้คณะกรรมการฯหรือสตช.นั้นก็แล้วแต่กรณี

“จากข้อมูลมีบางส่วนระบุถึงฝ่ายการเมืองแต่ผมไม่ขอลงรายละเอียดว่าเป็นใคร และอย่างไร  เพราะเป็นสิ่งที่คณะกรรมการฯต้องตรวจสอบ  และผมตอบล่วงหน้าไม่ได้ว่าผลจะเป็นเช่นใด  แต่ผมบอกคณะกรรมการฯไปว่าสามารถดำเนินการได้เต็มที่ตามข้อเท็จจริง หากยึดข้อ เท็จจริง หลักการ เหตุผล ทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้และเราให้อิสระเต็มที่”นายกรัฐมนตรี กล่าวและว่า ตนไม่ได้เปิดดูข้อร้องเรียนด้วยตัวเองเพราะเมื่อส่งข้อมูลเข้ามาก็ส่งต่อให้ คณะกรรมการฯ   อย่างไรก็ตามการพบ พล.ต.อ.วศิษฐ์ เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วศิษฐ์ มั่นใจว่าผลการสอบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จะเสร็จทันกรอบ เวลา 7 วัน และภาคอื่นๆนั้นวันนี้เพิ่งพบกับคณะกรรมการฯและบางภาคที่ส่งให้ในวันนี้อาจ ไม่ทัน ก็ขอให้คณะกรรมการฯเสนอความเห็นมาว่าจะทำอย่างไร.