เดินหน้าแจงนานาชาติคัดค้านแผนที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกม. เตรียมร้องขอดูแผนพัฒนาพื้นที่ของเขมรจากยูเนสโก
วันนี้(8 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ว่า ขณะนี้บรรยากาศตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในส่วนของรัฐบาลไทยยืนยันหลักการในการปักปันเขตแดนอย่างชัดเจน และยืนยันว่าตนไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนที่ทางกัมพูชาเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านบริเวณแนวชายแดนไทย กัมพูชาให้เป็นชื่อเดียวกับหมู่บ้านในประเทศไทยนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องของทางฝั่งกัมพูชา คงไม่มีปัญหา เพราะเรายืนยันมาโดยตลอดในเรื่องแบ่งเขตแดน และมีกลไกในข้อตกลงนี้ ไม่มีการละเมิดข้อตกลง อีกทั้งในพื้นที่ดังกล่าวก็มีเจ้าหน้าที่ของเราอยู่ในพื้นที่อยู่เช่นเดียวกัน ส่วนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกนั้น ทางรัฐบาลจะขอแผนพัฒนาพื้นที่ที่ทางกัมพูชาส่งให้ยูเนสโกมาพิจารณา ซึ่งเชื่อว่าทางยูเนสโกจะอนุญาตให้เรานำมาดูได้ เพราะเป็นสิทธิที่เราจะขอยื่นนำแผนที่นั้นมาพิจารณา เมื่อพิจารณาแล้วเราก็จะเสนอความเห็น และทำความเข้าใจกับประเทศต่าง ๆ ยืนยันว่าเราจะไม่ยอมสูญเสียดินแดน และจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
เมื่อถามว่าจะทันกับการที่ยูเนสโกจะตัดสินขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารในกลางเดือน ก.ค.นี้หรือไม่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราทำเต็มที่ และได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้มาโดยตลอด ตนใช้เวลาในหลายโอกาสพูดคุยทำความเข้าใจกับหลายประเทศ เพื่อชี้แจงว่าเราห่วงใยการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในลักษณะนี้ และเราทำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็ได้แสดงความไม่พอใจมาหลายครั้ง ที่เราดำเนินการอย่างนี้ ดังนั้น เราจะขอดูแผนพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวจากยูเนสโก คิดว่าไม่น่ามีปัญหาและเราก็มีคนไทยที่เป็นกรรมการด้วย 1 คน
เมื่อถามว่าเตรียมแผนรองรับในเรื่องนี้อย่างไร
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางกัมพูชาตั้งใจที่จะทำเรื่องนี้มาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว เราก็พยายามทำความเข้าใจกับคณะกรรมการว่าไม่ให้ยอมรับแผนที่ที่ไม่เป็นที่ยอมรับ และไม่สอดคล้องกับสนธิสัญญา ส่วนการจะขึ้นทะเบียนได้หรือไม่นั้น มันขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะผู้เชี่ยวชาญ และคณะกรรมการของยูเนสโกที่จะเป็นผู้ตัดสิน วันนี้ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ต้องเคารพในข้อตกลงในเรื่องการทำเขตแดนกันไว้ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องนำเรื่องขึ้นสู่ศาลโลก
เมื่อถามว่าแต่ทางกัมพูชารุกหนักมากจะดำเนินการอย่างไร
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีอะไร เสร็จแล้วเขาก็กลับไป และไม่สามารถยืนยันอะไรได้ นอกจากไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่ที่เรายืนยันว่าเป็นของเราได้
เมื่อถามว่าปัญหานี้จะถึงขั้นที่เราจะไม่เป็นสมาชิกองค์การยูเนสโกหรือไม่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่พูดถึงตรงนั้น.