"พัลลภ"ลั่นยุติบทบาทหลังแกนนำ นปช. เมินคุณค่า อัดเป็นรุ่นพ่อ"จตุพร" ผ่านมาเยอะแต่ถูกหยามเกียรติ เหน็บแดงกระเจิงเหมือน"เมษาวิปโยค" อย่ามาเรียกให้ช่วย ชี้ "ทักษิณ"อยากกลับไทย แต่ทางเดียวคือนิรโทษกรรม "ผมขอให้ พล.อ.ชวลิต ควรออกมาเป็นผู้นำประชาชนในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ซึ่ง พล.อ.ชวลิต ก็บอกว่าไม่ดีมั้ง ขอเป็นแค่ที่ปรึกษา พล.อ.ชวลิต ก็ไม่ได้ให้คำตอบ แต่ได้พยักหน้าแบบแบ่งรับแบ่งสู้ และก่อนที่ไประเทศดูไบเพียง 2 วัน พล.ต.ขัตติย สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้โทรศัพท์มาหาผม และบอกว่า มีคณะทัวร์ไปเที่ยงดูไบอยากจะด้วย และจะขอเข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งผมอยากจะไปอยู่แล้ว พล.ต.ขัตติยะ มาชวนร่วมกับคณะอีก 10 คน ก็เดินทางไปด้วย"พล.อ.พัลลภ กล่าว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์
ที่บ้านพักซอยโชคชัย 4 พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดใจหลังเดินทางกลับจากการพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเฉพาะประเด็นการจัดตั้งกองทัพประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กปช.) ที่ถูกแกนนำเสื้อแดง และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธแนวความคิดนี้ว่า จากเหตุการณ์เมื่อเดือน เม.ย. ที่กองทัพแดง และกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องถูกล้อมป่าแบบแตกกระเจิงไม่เป็นขบวน วันนั้นมีผู้ใหญ่หลายท่าน รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์มาหาตน 2 ครั้ง เพื่อขอให้เข้ามาช่วยหน่อย ซึ่งตนก็บอกท่านไปว่า คงช่วยไม่ได้ เพราะแตกแบบไม่เป็นรูปขบวน และไม่ได้เตรียมการเอาไว้สำหรับการช่วยเหลือในการป้องกัน แนวความคิดของตน ในวันนี้เมื่อแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศว่า ภายเดือน ก.พ. หรือ ต้นเดือน มี.ค.จะใช้มวลชนคนเป็นล้านเข้ามาใน กทม. ตนมองว่า จะหลีกเลี่ยงจากความรุนแรงไปไม่ได้ "ซึ่งก่อนที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศดูไบ ได้เดินทางไปพบ พล.อ.ชวลิต ที่บ้าน ผมมองว่าคนที่จะแก้ปัญหาประเทศได้ในเวลานี้ ไม่ให้คนไทยฆ่าคนไทยมีเพียง พล.อ.ชวลิต คนเดียวเท่านั้น เพราะท่านมีบารมี และเป็นคนที่มีลักษณะประนีประนอม จึงคิดว่าท่านสามารถพูดกับมวลชน และกองทัพเสื้อแดงได้จึงไปหาท่าน และได้พูดคุยถึงแนวความคิดนี้ "
พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า เมื่อไปถึงก็ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ผมจึงขายไอเดียเรื่องนี้ขึ้นมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็อยากเห็นสันติ ไม่อยากเห็นคนไทยต้องมารบลาฆ่าฟันเอง ผมจึงบอกกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ได้พบกับ พล.อ.ชวลิต แล้ว โดยขอให้ท่านเป็นผู้นำกองทัพประชาชน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็บอกว่าดี และเห็นด้วย ทั้งนี้ผมยอมรับผิด แทนที่จะใช้กองกำลังประชาชน แต่กลับไปใช้ว่ากองทัพประชาชน เพราะคนเสื้อแดงเขาใช้คำว่ากองทัพเสื้อแดงอยู่แล้ว แต่ที่ผมใช้กองทัพประชาชนเพราะเวลานี้มีประชาชนที่เป็นกลางวางเฉยอยู่เยอะ หากไปจำกัดคนเสื้อแดงก็จะได้แค่คนจำนวนเท่านั้น แต่หากเป็นประชาชนคนที่ลังเลอยากเห็นบ้านเมืองสงบก็อาจจะไหลเข้ามารวมกัน จึงอยากใช้คำว่า กองทัพประชาชนเพื่อประชาชนแห่งชาติ เมื่อเป็นกองทัพประชาชน พล.อ.ชวลิต ก็จะต้องเป็นผู้นำสูงสุด แต่มีคนโทรศัพท์มาหาตน และมีการสื่อสารผิดเนื่องจากห้องมันกว้าง ทำให้มีการสื่อสารผิดจากผู้นำสูงสุด กลายเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็กลายเป็นเรื่องขึ้นมา
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วใช่หรือไม่ที่จะให้ พล.อ.ชวลิต เป็นผู้นำสูงสุด พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นด้วย เมื่อถามว่าจะดำเนินการอย่างไร เมื่อ พล.อ.ชวลิต ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่ง พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ท่านปฏิเสธตำแหน่งผู้นำสูงสุด แต่ไม่ได้ปฏิเสธผู้นำประชาชน
เมื่อถามว่า แกนนำเสื้อแดง ปฏิเสธที่จะรับแนวคิดดังกล่าว แม้ว่าจะได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วก็ตาม พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า นายจตุพร พรมหพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ออกมาพูดคล้ายๆ ว่า พวก พล.อ.พัลลภ ไม่เกี่ยว ซึ่งก็หมายถึงตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และหมายถึงตัว พล.อ.ชวลิต ด้วยว่าไม่เกี่ยว ทั้ง ๆ ที่ตนได้พูดคุยกับ นายจตุพร ที่พรรคเพื่อไทย 2 ครั้ง แต่ยังไม่ได้พูดคุยกับ นายวีระ มุสิกพงษ์ ทั้งนี้ตน นายวีระ และนายจตุพร เคยทำงานร่วมงาน โดยใช้บ้านของ นายวีระ ที่ดอนเมืองเป็นที่ประชุม ซึ่งตนคิดว่ากลับจากพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และท่านยอมรับแนวคิดนี้ ตนก็จะมาพูดคุยกับ นายวีระ นายจตุพร อีกครั้ง แต่ปรากฎว่า เมื่อวานนี้ แกนนำออกมาในลักษณะตัดรอน เมื่อเขาประกาศว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เกี่ยวกับจบ
"ผมนอนคิดทั้งคืนว่า เมื่อเขาเป็นแบบนี้ ในฐานะที่ผมเป็นรุ่นพ่อของเขา และงานแบบนี้ผมทำมาก่อน ทั้งงานสนามรบในประเทศ และ นอกประเทศ หรืองานมวลชนใน กทม. ผมเล่นมาก่อน ดังนั้นเมื่อเขาออกมาตัดรอน และเขาไม่ได้ว่าผมคนเดียว แต่ว่าไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต ด้วย ดังนั้นเมื่อผมนอนคิดทั้งคืนแล้ว จึงตัดสินใจว่าวันนี้ผมจะอยู่เฉย ๆ ผมจะดูเขา และปล่อยให้เขาดำเนินการไปเลย ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยว ถ้ามันเกิดเหตุเหมือนช่วงเดือนเม.ย.ปีที่ผ่านมา ก็อย่ามาเรียกกันเพราะผมช่วยอะไรไม่ได้ ส่วนสถานะภาพในพรรคเพื่อไทย ก็ยังคงทำหน้าที่ไม่เกี่ยวกัน ทั้งนี้ ผมไม่เข้าใจเขาเหมือนก้น ถ้าให้ผมเดาคือว่า วันนี้เขาคิดว่า เขาเป็นแกนนำในการจัดตั้งมวลชน ที่เป็นกองทัพเสื้อแดง และกลัวผมจะมาชิงการนำของเขา แต่ผมไม่คิดเลย และได้มีการพูดคุยกันมาแล้ว ว่าคุณก็ว่าของคุณไปงานมวลชน แต่ผมจะดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ ผมกับ พล.อ.ชวลิต และ พล.ต.ขัตติยะ จะดูแลให้" พล.อ.พัลลภ กล่าว