กองทัพปชช.เละ จิ๋วไม่เอา พัลลภอ้างพูดผิด

เมื่อเวลา 12.00 น. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรค

ระบุจะแต่งตั้งพล.อ.ชวลิตเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (กปช.) ว่า กรณีมีข่าวจะตั้งให้ตนเป็นผู้บัญชาการสูงสุด ต้องชี้แจงว่าเจตนารมณ์ของตนในการกลับเข้ามาทำงานการเมืองมี 5 ข้อ คือ 1.เข้ามาพิสูจน์ว่าพรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดงและสมาชิกบางคนที่อยู่ต่างประเทศมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน 2.ต้องการสร้างความสมาน ฉันท์ เหมือนที่เคยทำได้ในอดีต 3.ต้อง การแก้ปัญหาภาคใต้ 4.การสร้างความเข้าใจที่ดีระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้าน 5.การแก้ปัญหาความยากจน

พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า คำว่ากองทัพประชาชนในพระเจ้าอยู่หัว คงหมายถึงกองทัพแห่งชาติในพระเจ้าอยู่หัวที่มาจากประชาชน

คือกองทัพประชาชนก็เป็นได้ หรืออาจหมายถึงว่าเป็นการดำเนินงานของกลุ่มเสื้อแดง ที่รวมตัวกันเรียกร้องความเป็นธรรมในสังคม แนวทางการทำงานจะยึดมั่นในสันติ ฉะนั้นหากจะให้ตนไปเป็นผู้บัญชาการก็คงไม่ใช่อย่างนั้น ข่าวที่ออกมาเป็นเพียงการกล่าวของพล.อ.พัลลภ ที่อาจต้องการให้ตนมาเป็นหัวหน้าหน่วยงานให้ประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ใฝ่สันติ และต้องการทำงานเพื่อประเทศชาติ คงไม่ใช่ให้ตนไปทำอะไรที่เสียหาย ต่อข้อถามว่าหากกลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนไหวในแนวทางสันติก็พร้อมเป็นผู้นำสูงสุดใช่หรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า หากไปเรียกว่าเป็นผู้บัญชาการกองทัพอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ผู้พูดอาจไม่ได้มีเจตนาหมายความอย่างนั้น จึงขอปฏิเสธที่จะใช้คำว่าผู้นำสูงสุด ตนเป็นส่วนหนึ่งของประชาชนที่รักบ้านเมืองและใฝ่สันติ ไม่จำเป็นต้องไปเป็นผู้นำเพราะเขามีผู้นำอยู่แล้ว

ส่วนที่มีการพูดว่าจะให้เวลารัฐบาลถึงสิ้นเดือนนี้ก่อนจะเคลื่อนไหวอย่างหนัก ประธานพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การเคลื่อนไหวที่หนักอาจหมายความว่าจะมีประชาชนมาร่วมจำนวนมากขึ้น

ที่ผ่านมาก็ถือว่าเคลื่อนไหวหนักเพราะรวมคนได้เป็นตัวเลขหลักแสน ขอยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงในชาติในแผ่นดินต้องเป็นไปในแนวทางสันติ เป็นที่ปรารถนาของมหาชนส่วนใหญ่ในแผ่นดิน คือการเปลี่ยนแปลงที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ให้บ้านนี้เมืองนี้ใช้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง

เมื่อถามว่ายืนยันจะไม่รับเป็นแกนนำเสื้อแดงใช่หรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า เขามีผู้นำอยู่แล้ว วันนี้ขอเป็นมิตรและสหายรู้ใจ

เพราะมีแนวทางการทำงานตรงกันคือการแก้ปัญหาบ้านเมือง ผู้สื่อข่าวถามว่าการเปิดประเด็นนี้เป็นหนึ่งในช่องทางการขอเจรจาของพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า คงไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดมานานแล้วว่าต้อง การสันติ ให้ทุกอย่างกลับมาสู่ความถูกต้องตามกฎหมายและประชาชนมีสิทธิเลือกรัฐบาลของตัวเอง เมื่อถามว่าขอบเขตการทำงานและการเคลื่อนไหวของกองทัพประชาชนจะออกมาลักษณะใด พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ถ้าหมายถึงกลุ่มคนเสื้อแดงคงไม่ถูกเพราะเขาก็ใฝ่สันติ เมื่อถามว่าการวางตัวพล.อ.ชวลิตให้เป็นผู้นำสูงสุดนั้น รวมไปถึงการเตรียมวางตัวให้เป็นผู้นำการเลือกตั้งด้วยหรือไม่ ประธานพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า เขามีผู้นำกันเยอะเยอะแล้ว ไม่ต้องห่วง

ส่วนที่นายกฯ เป็นห่วงหากพล.อ.ชวลิตรับเป็นผู้นำสูงสุดเหมือนที่พล.อ.พัลลภระบุ พล.อ. ชวลิตย้อนถามว่า กลัวหรือ

ขอเรียนนายกฯ ว่ามันไม่มีอะไรหรอก อย่าตกใจ นายกฯ ยังไปเมืองนอกได้ ต่อข้อถามว่าหากการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงเกิดความรุนแรงขึ้น ยังจะช่วยเหลืออยู่หรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า จะรุนแรงได้อย่างไร ช่วงเดือนเม.ย.52 ที่เกิดเหตุขึ้นเพราะมีผู้ที่หวังดีเกินไป ทำให้มันมีเรื่อง หากปล่อยให้เขาชุมนุมก็คงไม่มีอะไร อย่างเก่งก็เดินพูดจาแล้วก็แยกกันไป

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการเข้าพบกับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า "ยังให้ความเคารพทุกอย่างไม่มีเปลี่ยนแปลง พล.อ.เปรมมีเจตนารมณ์ที่ดีต่อบ้านเมือง เป็นเรื่องธรรมดา ท่านอาจจะมีอารมณ์โกรธหรือเข้าใจผมผิดบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา เราเข้าไปจ๊ะจ๋าเดี๋ยวท่านก็ดีเอง"

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย คนสนิทพล.อ.ชวลิต เผยว่า พล.อ. ชวลิตยืนยันไม่ทราบเรื่องผู้บัญชาการสูงสุด กปช.มาก่อน

เมื่อเห็นข่าวพล.อ.ชวลิตพูดเล่นกับพวกตนว่า "ดีเหมือนกันจะได้ตั้งนายพลกัน เราเรียกกันคนละ 10 ล้านดีมั้ย เดี๋ยวนี้มีข่าวการแต่งตั้งโยกย้ายต้องใช้แต่เงินทั้งนั้น" ความหมายของพล.อ.พัลลภอาจหมายถึงกองทัพประชาชน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้ประชาชนไปออกทัพจับศึก