ทักษิณ เวรกรรมไล่คิดบัญชีหนังปีจอ

´ค่ายแกงโฮะ´ จะถึงขั้นร่อแร่ หายใจพะงาบๆ วันดับสูญในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี นับตั้งแต่วันก่อตั้ง 14 กรกฎาคม 2541 ภายใต้ ´ปฏิญญาฟินแลนด์´

ถ้า ´ซีอีโอแกงโฮะ´ ตัดสินใจไม่เดินทางไปประชุมกลุ่มประเทศอาเซียนและยุโรป ยอมอยู่เฝ้าเก้าอี้ในกรุงเทพฯ แล้ว ชะตากรรมจะเป็นเช่นนี้หรือไม่?

หรือเลี่ยงไม่พ้นสภาวะ ´เกิดที่ฟินแลนด์ ก็ต้องดับที่ฟินแลนด์´ เป็นการตีตั๋วเที่ยวเดียว ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับบ้านเกิดอีกหรือไม่

ทำได้เพียงเขียน ´นิราศลอนดอน´ มาปลอบใจลูกพรรคที่ยังเหลืออยู่ ใช้ชีวิตและเงินมหาศาลหาความสุขท่ามกลางความเหงาหงอย ปราศจากลิ่วล้อ บริวารห้อมล้อมเหมือนยุคเหลิงอำนาจคับเมือง

การไปฟินแลนด์ ตะลอนๆ ต่อไปคิวบา กลับมานิวยอร์กนั้น อย่างน้อยที่สุดในใจของ ´ซีอีโอแกงโฮะ´ คงพร้อมรับสภาพต้องพลัดถิ่นฉุกเฉิน หลังจากทยอยขนสมบัติออกจากเมืองไทยไปหลายเที่ยว

เมื่อทำเช่นนี้คงมีคนเชื่อว่าบั้นปลายนั้นคงไม่อยู่เมืองไทย ลี้ภัยแหงๆ

เมื่อตั้งธงในใจว่าจะต้องลี้ภัย คงไม่คิดจะสู้ แม้ปากจะส่งเสียงขู่ฟ่อๆ! นั่นเป็นเพียงการปลอบขวัญลูกพรรคให้ช่วยซื้อเวลา และมองหาโอกาสเผื่อฟลุ้คด้วยเช่นกัน

ถ้านั่งรำลึกความหลังในอพาร์ตเมนต์หรือบ้านที่ลอนดอน ´ซีอีโอพลัดถิ่น´ น่าจะยอมรับว่าคำทำนายจากหมอดูหรือคนในวงการเมืองแม่นยำมาก โดยเฉพาะประเด็น ´ไม่มีแผ่นดินจะอยู่´ หรือ ´โดนยึดทรัพย์สิน´ แทบไม่มีอะไรเหลือ

´ซีอีโอพลัดถิ่น´ คงไม่รู้เช่นกัน จะให้หมอดูทำนายทายทักคงจะทำใจยากรับได้

ชะตากรรมยังไม่สิ้นเวร! นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของการชำระสะสางพฤติกรรมที่ผ่านมา จากนี้ไป จะเกิดสภาวะ ´น้ำลดตอผุด´ ความชั่วร้ายหมกหมักไว้ด้วยอำนาจ จะถูกขุดคุ้ยออกมาให้โลกรู้

บริวารเคยช่วยเหลือในการกระทำความผิดจะกลายเป็นพยานให้กระบวนการตรวจสอบทางกฎหมายเพื่อให้ตัวเองรอดจากคุก เริ่มด้วยข้าราชการสรรพากรนั่นแหละ จะเป็นชุดแรก เพราะประเมินภาษีการขายหุ้นชินคอร์ปแบบพิสดาร

หลังจากเคยให้บริวาร ยาม คนใช้ในบ้านเป็นนอมินี หรือตัวแทนเชิดถือหุ้น

กรรมติดจรวดไล่ล่าทั้งครอบครัว หลายสาแหรก หรือวงศ์ตระกูลเกี่ยวดองกันแน่นอน หลังจากมหกรรมโคตรโกงแล้วต่อยอดเป็นโกงทั้งโคตร สร้างประวัติศาสตร์อัปลักษณ์ให้ประเทศไทย

สมุนตัวเอ้ พวกนิยมอำนาจเถื่อน จัดตั้งกองทัพส่วนตัว กำลังถูกสอบพฤติกรรมชั่วร้าย ถ้ายังอยู่ในประเทศ โอกาสรอดคุกนั้นยาก

เป็นความหวังลมๆ แล้งๆ หรือไม่ ต้องรอดูว่าทรัพย์สินมหาศาลจะรอดพ้นจากการถูกยึด เอามาใช้เป็นทุนกู้ศึกรอบใหม่หรือไม่

ช่วงนี้ทำได้เพียงโทรศัพท์ไปหาบริวารในเชียงใหม่ ให้บอกกล่าวชาวบ้านว่าอีกไม่นานจะกลับมาทวงเก้าอี้ผู้นำคืน จะมีใครเชื่อสักกี่คน

ดูก็แล้วกัน หัวหน้าก๊วนต่างๆ ที่เคยพินอบพิเทา กลัวหัวหด ไม่กล้าเถียงสักแอะ! ยังกระโดดหนีเรือผุ ไม่ยอมล่มจมด้วย จากนี้ไปจะยังเหลือเพื่อนรู้ใจ ยอมร่วมชะตากรรมอีกหรือไม่

แล้วพวกอดีตคอมมิวนิสต์ นักจรยุทธ์ ปลุกม็อบป่วนเมืองไปหลบกบดานที่ไหน หลังจากป้อนภาพลวงจนพาหัวหน้าตกเก้าอี้อำนาจ

จากนี้ไป ´ซีอีโอพลัดถิ่น´ มีทางเลือกไม่มาก ต้องซุกซ่อนสมบัติให้พ้นจากการไล่ล่าตรวจสอบอายัด และยึด หรือคิดใช้เงินมหาศาลหว่านเปิดทางให้คืนสู่อำนาจ ถ้าไม่มีคดีอาญาเป็นชนักติดหลัง

การใช้ชีวิตในเมืองนอกนั้นเป็นความเหงาหงอย ต่อให้มีเงินมากเท่าไหร่ก็ตาม ยิ่งมีเงินแล้วซื้ออดีตอันยิ่งใหญ่กลับคืนมาไม่ได้ ทำให้รู้สึกปลงว่า เงินไม่มีค่าพอในการซื้อความสุขแท้จริง

นอกจากสร้างทุกข์แล้ว ยังเปิดประตูคุกรออีกด้วยนิ! อิอิอิ!!!

แหล่งที่มา: เนชั่นสุดสัปดาห์