สภาเดือด! นายกฯตอบกระทู้จตุพร ยันไม่เคยพูดให้ยึดทรัพย์แม้ว ซัดกลับปั้นน้ำเป็นตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 28 มกราคม

มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากระทู้ถามสด เรื่องการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ถามต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี


นายจตุพร กล่าวว่า ข้อสงสัยเรื่องการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของรัฐบาลนี้ไม่ใช่ครั้งแรก

แต่สำหรับครั้งนี้นายอภิสิทธิ์ ไปพูดในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ว่า "ต้องไม่มีการนิรโทษกรรมให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ" และ "ต้องไม่มีการคืนทรัพย์สินให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ" ทั้งที่คดีอยู่ในศาลฎีกา แต่นายอภิสิทธิ์ ก็ไปก้าวล่วงว่า จะให้ผลออกมาเป็นอย่างไร ถือเป็นการบังอาจก้าวล่วงอำนาจตุลาการที่เป็น 1 ใน 3 อำนาจอธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ เหิมเกริม นายอภิสิทธิ์ ใช้อำนาจอะไร ทั้งนี้เรื่องยังสอดคล้องกับบันได 4 ขั้นของคมช. ที่พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ประธานคมช.เคยพูดว่า ต้องยุบพรรคไทยรักไทย ต้องยึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องทำให้พรรคไทยรักไทยแตก ต้องทำให้รัฐธรรมนูญ 50 ผ่าน เพื่อให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ และสอดคล้องกับการตั้งคนที่เป็นปฏิปักษ์กับพ.ต.ท.ทักษิณ มาตรวจสอบนั่นคือคตส. ทำให้มีอคติในการสอบสวน


นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า กระทู้สดนี้ ไม่ได้ถามบนข้อเท็จจริง และผู้ถามก็ไม่ได้อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ไม่รู้ว่า ไปรู้ได้อย่างไร ว่าใครพูดอะไรในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์

และกรณีคดีทรัพย์สินของพ.ต.ท.ทักษิณ ตนพูดในที่ส่วนตัว หรือในที่ประชุมพรรค เหมือนกันหมดคือ พูดว่า เป็นเรื่องที่ศาลต้องตัดสิน และไม่เคยพูดอย่างอื่น ฉะนั้นยืนยันว่า ไม่เคยพูดอย่างที่มีการตั้งกระทู้ ส่วนเรื่องนิรโทษกรรม เป็นเรื่องฝ่ายนิติบัญญัติจะออกกฎหมาย เมื่อตนเป็นฝ่ายนิติบัญญัติก็มีสิทธิ์แสดงความเห็นว่า ไม่ควรตรากฎหมายรับ
ใช้ใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ผู้ถามระบุว่า ตนเหิมเกริมตนคิดว่า ไม่ควรจะหากล่าวหาตนแบบนี้ เพราะ ผู้ถามเองก็ปั้นน้ำเป็นตัวหลายเรื่อง

เช่น ที่กระทรวงมหาดไทยเดือนเมษายนปีที่แล้ว ซึ่งตนฟ้องร้องไปแล้ว และถามกลับว่า ถ้าเหิมเกริม ใครที่ปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 52 โดยบอกว่า ศาลเชื่อถือไม่ได้ นั่นแหละคือการก้าวล่วง ซึ่งคดีนี้ทนายของผู้ถามกระทู้ ยอมรับแล้วว่า มีการพูดจริง ดังนั้นจะได้ทราบว่า ใครเหิมเกริมละเมิดอำนาจศาลแน่ และที่ผ่านมาผู้ถามยังมีการพูดปลุกปั่นให้คนเกลีดยชังรัฐบาล เช่น หาว่า ถ่วงฎีกา


จากนั้น นายจตุพร กล่าวว่า สื่อลงคำสัมภาษณ์ ของนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 27 มกราคม แบบคำต่อคำชัด

ว่า นายอภิสิทธิ์ พูดแบบนี้ นอกจากนี้ก่อนหน้านี้ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ส่งหนังสือการดำเนินการไทย-กัมพูชา โดยเอกสารข้อ 2.4 ระบุถึงการเร่งดำเนินคดียึดทรัพย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ตนจึงสงสัยว่า นายอภิสิทธิ์ เกษียรหนังสือนั้นไปถึงหน่วยงานใดบ้าง และจากการประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทำให้ตนเชื่ออย่างสุจริตใจว่า นายอภิสิทธิ์ แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และจะฟ้องร้องกันก็ได้


ผู้ทำให้ นายอภิสิทธิ์ ลุกขึ้นชี้แจงว่า ที่ประชุมพรรคยืนยันได้ทุกคนว่า ไม่ได้มีการพูดเรื่องทรัพย์สินพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะยึดหรือไม่ยึด

แต่พูดกันแต่เรื่องรัฐธรรมนูญ ส่วนเรื่องหนังสือดังกล่าว ตนแค่ลงรับว่า ทราบ เท่านั้น นอกจากนี้ ที่ท้าให้ฟ้อง ตนฟ้องร้องไม่กี่คน โดยที่ฟ้องมากที่สุดก็คือผู้ถาม เพราะมีการปั้นน้ำเป็นตัว กล่าวเท็จอย่างสิ้นเชิง จนตัวเองเชื่อว่า สิ่งที่ตัวเองปั้นข้อมูลขึ้นมาพูดเป็นจริง ทั้งนี้ขอยืนยันอีกครั้งว่า สิ่งที่ตั้งกระทู้ถามมา ไม่เป็นความจริง 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดการถามกระทู้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประท้วงเป็นระยะทำให้การถามกระทู้นี้ใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมง 10 นาที

โดยมีการปะทะคารมกันอย่างหนักเมื่อนายจตุพร ถามกระทู้ไปได้ 15 นาที โดยนายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงขอให้นายจตุพร พูดให้ตรงประเด็น อย่าใช้วาจาเสียดสี และตนรอถามกระทู้ถัดไปอยู่ซึ่งเป็นเรื่องมีประโยชน์ ชาวบ้านรอฟัง ทำให้นายจตุพร ตอบโต้อย่างมีอารมณ์ว่า "คนเมืองเพชรนักเลงไม่ใช่หรือ ประท้วงแบบนี้ ขอให้กล้าพูดออกมาว่า ว่ารับใช้ใคร" ทำให้นายอรรถพร ตอบโต้ว่า "คนทั้งประเทศรู้ว่า คุณรับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตอบโต้ดังกล่าว ทำให้บรรยากาศการประชุมดุเดือด นายจตุพร ขอให้ถอนคำพูด แต่นายอรรถพร ไม่ยอมถอน แถมพูดอีกว่า "ผมพูดความจริง คงถอนไม่ได้ คนเขาก็รู้ว่า ตุ๊ตู่สู้แล้วรวย" ในที่สุด นายชัย จึงให้นายอรรถพร ออกจากห้องประชุม เนื่องจากไม่ยอมถอนคำพูด


จากนั้น นายอภิชาต สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกประท้วงบ้าง ขอให้นายจตุพรถอนคำพูด

"คนเมืองเพชรนักเลงไม่ใช่หรือ" เพราะตนเป็นส.ส.เพชรบุรี เพราะนักเลงคบได้ น่าคบ นายจตุพร เคยบุกไปหาเสียงที่เพชรบุรีบอกว่า ตนเป็นส.จ.ร้อยศพ ดีแต่เผาศพ ตนคิดว่า ในชีวิตตนขาดอีก 3 ศพ ทำให้นายจตุพร กล่าวว่า ประธานให้อันธพาลที่ไหนมาข่มขู่ตนในสภา ขอให้ถอน เป็นมือปืนหรือ จะยิงใครในสภาก็ได้ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ก็ยิงเลย นายอภิชาต กล่าวว่า ไม่ถอน เพราะที่บอก 3 ศพ คือ ขาดอีก 3 ศพที่ต้องไปสวด สุดท้ายนายชัย ไกล่เกลี่ยว่า ขอให้ทุกฝ่ายหยุดการประท้วง ตอนนี้สภาถดถอย ถูกประนามพอสมควรแล้ว ขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในกรอบระเบียบ
 


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์