รับฟ้องคดี“อริสมันต์”หมิ่น“อภิสิทธิ์”

คมชัดลึก :ศาลรับฟ้อง“อริสมันต์”หมิ่น“อภิสิทธิ์” ขึ้นเวทีปราศรัยเสื้อแดง ต.ค.52 ลานอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย - ทำเนียบ กล่าวหา ปล้นอำนาจประชาชน ต้นเหตุในหลวงประชวร ศาลนัดสืบโจทก์ สอบคำให้การอริสมันต์ 7 เม.ย.


โดยวันนี้ นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี ขึ้นเบิกความเพียงปากเดียว สรุปว่า ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความจงรักภักดี


และปฏิบัติหน้าที่สนองพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ มาโดยตลอด โดยเฉพาะพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.52 ที่ว่า ความสุขความสวัสดีของข้าพเจ้าจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองมีความปกติสุข ซึ่งหมายถึงบ้านเมืองไม่มีความวุ่นวายในเหตุจลาจลของกลุ่มคนเสื้อแดงในเดือน เม.ย.52 ทั้งใน กทม.และเมืองพัทยา ซึ่งจำเลยเป็นแกนนำล้มการประชุมอาเซียน ซึ่งโจทก์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ - ทหาร เข้าควบคุมสถานการณ์โดยยึดหลักกฎหมาย และสิทธิมนุษยชนจนกลุ่มคนเสื้อแดงสลายการชุมนุมไปโดยปราศจากการเสียเลือดเนื้อ ส่วนคลิปเสียงที่จำเลยนำมาเผยแพร่กล่าวอ้างว่าโจทก์สั่งการให้ฆ่าประชาชนนั้น ได้มีการพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่ยอมรับแล้วว่าเป็นการตัดต่อข้อความจากเสียงของโจทก์


นายอภิสิทธิ์ ยังเบิกความถึงการยื่นฎีกาพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าไม่เคยประวิงเวลาการพิจารณาฎีกาของพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ของกลุ่มคนเสื้อแดง

โดยได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางราชการ ซึ่งต้องมีการส่งรายชื่อผู้ถวายฎีกาให้กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบความถูกต้อง โดยจำเลยเป็นอดีต ส.ส. ก็ทราบดีถึงขั้นตอนกระบวนการแต่ยังดึงดันยื่นถวายฎีกาทั้งที่กลุ่มนักวิชาการ อธิการบดี 57 มหาวิทยาลัย และข้าราชการระดับปลัดกระทรวงต่างคัดค้านว่าเป็นการกดดันพระมหากษัตริย์


ส่วนที่จำเลย กล่าวหาว่าโจทก์ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จาการปล้นอำนาจประชาชนนั้นไม่เป็นความจริง


เพราะโจทก์ได้รับความเห็นชอบจากเสียงข้างมากสภาฯ ตามวิถีทางของประชาธิปไตย ซึ่งข้อกล่าวหาของจำเลยดังกล่าวไม่ได้เป็นการติชมโดยสุจริต แต่เป็นการกล่าวหาโจทก์ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ภายหลังเมื่อนายอภิสิทธิ์ เบิกความเสร็จสิ้นแล้ว ต่อมาเวลา 11.45 น. ศาลมีคำสั่งให้ประทับรับคำฟ้องคดีไว้พิจารณาพิพากษา เนื่องจากเห็นว่าคดีมีมูล โดยศาลสืบพยานโจทก์และสอบคำให้การนายอริสมันต์ จำเลย ในวันที่ 7 เม.ย.นี้ เวลา 09.00 น. และสืบพยานโจทก์วันที่ 8-9 เม.ย.นี้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์