วิเคราะห์การเมือง ยังไงก็หนีนักวิ่งไม่พ้น

เจอผู้นำสไตล์พูดน้อยต่อยหนักก็ถือว่าเป็นงานเบา


สำหรับนักข่าวที่ติดตามนายกรัฐมนตรี วันๆเขียนข่าวแทบนับบรรทัดได้ ตอบได้ก็ตอบ ไม่ตอบก็บอกกันตรงๆ พูดไม่ได้

ไม่พล่ามพร่ำเพรื่อ

และต้องเป็นคนที่คุ้นเคยกับ บิ๊กแอ้ด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เท่านั้น ถึงจะรู้ว่าตัวจริงเสียงจริงของ บิ๊กแอ้ด

พูดเก่งระดับวิทยากรเวทีปาฐกถา


แต่ในบทบาทของผู้นำ บิ๊กแอ้ด ได้วิชาจาก ป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ สอนไว้

รัฐมนตรีหรือผู้ใต้บังคับบัญชาพูดผิด ยังมีนายกรัฐมนตรีคอยแก้แทนให้ได้ แต่ถ้านายกรัฐมนตรีพูดผิดซะเอง ไม่มีใครคอยแก้ให้ได้

ฉะนั้น พูดให้น้อยเข้าไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด

แต่ที่เคร่งครัดมากๆ ต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับรายงานข่าวทางสื่อมวลชนเสนอกำหนดการล่วงหน้า นายกฯจะนำ ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯวันนั้นวันนี้ บิ๊กแอ้ด รีบเคลียร์ทันที

ยังครับยังไม่ทราบ อันนั้นเป็นสิ่งที่ผมบอกว่า วันอังคารนี้คิดว่ารายชื่อ ครม.คงจะเสร็จแล้ว เพราะผมขอเวลาไว้เจ็ดวันหรือหนึ่งสัปดาห์ เพราะฉะนั้น ที่ไปลงข่าวว่า จะเข้าเฝ้าอะไรต่างๆก็คงจะคลาดเคลื่อน เพราะว่าอยู่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ครม.เข้าเฝ้าฯหรือไม่

ไม่มีการก้าวล่วงเบื้องสูงเด็ดขาด

ก็แน่นอนว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ประกาศรายชื่อทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย อย่างไรเสียก็ไม่มีทางได้ยินชื่อรัฐมนตรีหลุดจากปาก บิ๊กแอ้ด

ไม่ว่าจะเป็นคิวบอกใบ้หรือแพลมไต๋ให้ทายปริศนา 10 คำถาม

อย่างดีเลยก็ให้ความชัดเจนแค่


ผมได้พูดว่า ผมยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง มันเป็นเรื่องธรรมดาที่มันจะไม่มีอะไรที่จะไม่มีตำหนิเลย แม้แต่ตัวผมเองก็ตระหนักตลอดเวลาว่า ผมไม่ได้วิเศษ ไม่ได้มีความสามารถความรู้เหนือกว่าคนอื่น ก็มีสิ่งที่ตำหนิได้ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้น ครม.ก็เช่นเดียวกัน ทุกคนไม่มีใครที่จะบริสุทธิ์ผุดผ่องร้อยเปอร์เซ็นต์คงไม่มี

ลองถ้าออกตัวกันอย่างนี้ แสดงว่าเฟ้นหา ครม.ดรีมทีมที่หมดจดสดใสยากจริงๆ


ก็เป็นอะไรที่สอดรับกับข่าวกระเส็นกระสายออกมา ประเภทที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. หนึ่งในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แฉเอง มีคนวิ่งเต้นจองเก้าอี้ รมว.มหาดไทย

ไม่ว่าสถานการณ์ไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับพวก นักวิ่ง

และก็แน่นอนไม่มีใครกว้างขวางขนาดรู้จักคนทั่วทุกวงการ โดยเฉพาะคนที่บุคลิกเงียบขรึม สมถะ รักการผจญภัยตามป่าเขาอย่าง บิ๊กแอ้ด มีข้อจำกัดสำคัญเลยก็คือ นอกจากวงการกองทัพด้วยกันแล้ว


วงการอื่นไม่รู้ตื้นลึกหนาบางว่าใครเป็นอย่างไร

ครั้นจะเลือกคนที่ไว้ใจได้ก็ต้องเป็นทหารด้วยกัน ก็มีปัญหาแค่มีชื่อทหารติดโผรัฐมนตรี 2-3 ราย ก็เริ่มมีเสียงเอะอะโวยวาย


ดักคอ ครม.ร่างทรงกองทัพ

จึงต้องอาศัยทีมแมวมองในการเฟ้นมือเจ๋งๆเข้าร่วมคณะรัฐมนตรี

เจาะจงชื่อไหน ขั้นแรกเลยก็ใช้เครื่องมือใกล้ตัว อาศัยหน่วยข่าวกรองทหารในการตรวจสอบเบื้องหน้าเบื้องหลัง เน้นความซื่อสัตย์โปร่งใส

ไล่เช็กประวัติกันอย่างละเอียดยิบ

ถ้าเข้าสเปกแล้วค่อยติดต่อทาบทามให้เข้ามาช่วยงานรัฐบาล แต่ยังไม่กำหนดว่าตำแหน่งไหน

กรองกันหลายชั้น

ฉะนั้น รายชื่อตัวเก็งที่ปรากฏออกมา ส่วนใหญ่น่าจะเป็นแค่กองเชียร์โยนหินถามทาง

จะซวยก็แต่บางรายโยนแล้วพลาด กลายเป็นเป้าล่อ อย่างคิวของนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ที่ติดโผคั่ว รมว.พลังงาน ไม่ทันไรก็เจอแรงต้านมหาศาลจากกลุ่มต้านการแปรรูป กฟผ. ประสานเสียงกลุ่มเอ็นจีโอต้านโรงไฟฟ้าพลังถ่านหิน เช่นเดียวกับคิวของนายชัยอนันต์ สมุทวณิช ที่คั่ว รมว.คมนาคม ก็เจอเสียงโห่จากคนการบินไทย ตั้งแง่พวกเก่งคนเดียวไม่ฟังเสียงใคร

โดนด่าฟรีทั้งๆยังไม่รู้ว่าจะติดโผจริงหรือเปล่า.




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์