ศาลรับคดีมาร์คฟ้องหมิ่นจตุพร เดินทางไปเบิกความเอง

เมื่อวันที่ 18 มกราคม เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช. เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332 กรณีเมื่อวันที่ 11 และ 17 ตุลาคม 2552 นายจตุพรกล่าวปราศรัยในการชุมนุมของ นปช.และกลุ่มเสื้อแดง ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและทำเนียบรัฐบาล กล่าวหาว่า นายอภิสิทธิ์ยึดพระราชอำนาจ โดยไม่เสนอให้มีการถวายฎีกาพระราชทานอภัยโทษแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เป็นฆาตกร อาชญากร สั่งทหารฆ่าประชาชนและสร้างสถานการณ์การจลาจลที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง นางเลิ้ง และถนนเพชรบุรี ซอย 5 และซอย 7 ช่วงเดือนเมษายน 2552 และ เหตุการณ์จลาจลที่เมืองพัทยา

นายอภิสิทธิ์ มาเบิกความเป็นพยานด้วยตัวเอง สรุปว่า การขอพระราชทานอภัยโทษ เป็นประเพณีปฏิบัติกันมา

ซึ่งการจะยื่นมีขั้นตอนและต้องตรวจสอบความถูกต้องจากกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีการรวบรวมรายชื่อจำนวนมากถึงหลักล้านคนต้องใช้เวลาตรวจสอบนานมากกว่าบุคคลอื่น ขณะที่การยื่นถวายฎีกาจะต้องเป็นกรณีนักโทษเด็ดขาด แต่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่นักโทษเด็ดขาดที่ได้รับโทษแล้ว แต่เป็นผู้ที่หลบหนีออกหมายจับ

นายอภิสิทธิ์ ยังสรุปว่า เหตุจลาจลในพื้นที่ กทม.และเมืองพัทยา ช่วงเดือนเมษายน 2552

ยืนยันว่าการสั่งควบคุมสถานการณ์โจทก์ให้เจ้าหน้าที่ใช้ความละมุนละม่อม ที่สำคัญเน้นการรักษาความสงบไม่ได้สั่งให้ทำร้ายประชาชน โดยที่สุดแล้วการสลายการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลเกิดขึ้นด้วยการเจรจาโดยผู้ชุมนุมออกไปจากทำเนียบรัฐบาล ขณะที่เหตุจลาจลผู้ที่อยู่เบื้องหลัง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กล่าวปลุกระดมประชาชนให้มาชุมนุม

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล จึงมีคำสั่งให้ประทับรับฟ้องไว้พิจารณาพิพากษา โดยนัดสอบคำให้การนายจตุพร จำเลย วันที่ 8 กรกฎาคมนี้ เวลา 09.00 น.

ภายหลังนายอภิสิทธิ์ กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงความเป็นไปได้ เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยคดีกับนายจตุพรเพียงสั้นๆ ว่า ไม่อาจยอมความกันได้

"สุเทพ"ย้ำเอาจริงม็อบทำผิด กม.

วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 18 มกราคม ถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีแนวโน้มเข้มข้นขึ้นว่า ยืนยันเหมือนเดิม ทุกคนในประเทศไทยมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน มีสิทธิชุมนุมด้วยความเรียบร้อย แต่หากไปบุกรุกสถานที่ราชการทำผิดกฎหมายทำร้ายประชาชนคนอื่นทำร้ายตำรวจต้องดำเนินคดี ส่วนการบุกทำเนียบองคมนตรี ซึ่งเป็นสถานที่ราชการเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ดูแลสถานที่ราชการทุกแห่ง ส่วนการดำเนินกับนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ขณะนี้ต้องรอตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานก่อน