อภิสิทธิ์ยาหอมชาวบ้านมาบตาพุด ดูแลสุขภาพ สิ่งแวดล้อม ลั่นพร้อมคุย เจโทร เชื่อเข้าใจอยู่แล้ว

ต่อมาเวลา 13.00 น. นายอภิสิทธิ์เป็นประธานเปิดศูนย์อาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม โรงพยาบาลมาบตาพุด จังหวัดระยอง และปล่อยขบวนคาราวานรถ MOBILE CARE ในโครงการตรวจสุขภาพและเฝ้าระวังโรคของประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง จากนั้นเวลา 14.00 น. นายอภิสิทธิ์เดินทางมายังวัดหนองแฟบ เพื่อชมการบริหารสาธารณสุขนอกสถานที่จากรถสุขภาพที่ได้ปล่อยออกจากศูนย์อาชีวศาสตร์ฯ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้ปราศรัยต่อประชาชนตอนหนึ่งว่า การตรวจสุขภาพของคนที่มาบตาพุดจำเป็นต้องตรวจให้ละเอียดว่ามีสารพิษเข้าไปสะสมในร่างกายหรือไม่ ซึ่งบุคคลกรสาธารณสุขมีคนที่เชี่ยวชาญ

นายอภิสิทธ์กล่าวว่า หลังจากนี้รัฐบาลต้องดำเนินการมาตรการเชิงรุก เพื่อปกป้องไม่ให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับคนในพื้นที่ นักลงทุนต้องให้ข้อมูลกับหน่วยงานรัฐว่าตัวเองทำอะไรบ้าง ในโรงงานอุตสาหกรรมของตัวเองมีวัตถุอะไร ที่อาจจะเป็นอันตรายต่อชาวบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลของสารเคมี หรือหากมีการรั่วไหลก็สามารถรู้ได้ว่ามีสารตัวไหนที่เป็นอันตราย

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้เชื่อในการพัฒนาอย่างสมดุลยั่งยืน เชื่อว่ากระบวนการที่ดีที่สุดต้องให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม บทเรียนจากมาบตาพุดเป็นบทเรียนของคนทั้งประเทศ หากต้องการเห็นความเจริญทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ต้องเข้าใจว่าหากมองอยู่ในมุมเดียวว่ามีอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจโตขึ้น จะนำมาซึ่งความผาสุกนั้นไม่ใช่ ต้องนึกถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ต้องนึกถึงผลกระทบทางสุขภาพของประชาชน ไม่เช่นนั้นไม่อาจสร้างความผาสุกได้ ตนยืนยันว่าการดำเนินการต่อจากนี้ต้องเดินตามแนวทางการพัฒนาที่ยังยืนสอดคล้องกับแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

"ปัญหาของประชาชนคือปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อม ผมจึงขอให้ อสม.ไปดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด ดูปัญหาปัจจุบันรวมทั้งอนาคตด้วย ที่ผ่านมาอาจมองว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมากกว่า แต่ยืนยันว่าเราไม่ได้เน้นหนักแต่ปัญหาตรงนั้น แต่เน้นหนักการแก้ปัญหาสุขภาพของประชาชนด้วย โดยเฉพาะที่ผ่านมามีการฟ้องร้องจนทำให้มาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษจนนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่ายขึ้นมาหามาตรการและอนุมัติมติ เพื่อออกประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยรับฟังความเห็นของประชาชนรวมทั้งองค์กรอิสระเพื่อคลี่คลายปัญหา" นายอภิสิทธิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์เดินทักทายจับมือกับชาวบ้านนั้น มีกลุ่มภาคชาวบ้านคนหนึ่ง เดินตรงเข้ามาบอกกับนายอภิสิทธิ์ว่า ขอให้ภาคประชาชนเข้าไปทำงานร่วมกับคณะกรรมการ 4 ฝ่ายเพิ่มเติมด้วย ให้รอภาคประชาชนด้วย ซึ่งนายอภิสิทธิ์กล่าวตอบว่า  "ผมดำเนินการไปแล้ว"

ต่อมา นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ กรณีที่ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นหรือเจโทร ขอเข้าพบเพื่อหาข้อสรุปการลงทุนในมาบตาพุดในต้นสัปดาห์หน้าว่า ยินดีเพราะต้องการทำความเข้าใจ ตอนนี้ที่ได้สั่งการเพิ่มไป คือ ได้เปิดศูนย์บริการนักลงทุนจุดเดียว ที่จะมีโต๊ะพิเศษสำหรับเรื่องมาบตาพุด และตอนนี้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง กำลังส่งเจ้าหน้าที่เข้ามา ฉะนั้น นักลงทุนที่มีข้อสงสัย ก็ไปที่นั่นได้ จะได้รับความรู้เรื่องการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ หรือตามกฎระเบียบที่ออกมาใหม่ทั้งหมด คิดว่าเรื่องนี้จะชัดเจนขึ้นตามลำดับสำหรับทุกคน  

เมื่อถามว่า หากเจโทร มาพบแล้วจะให้ความมั่นใจในการลงทุนอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะบอกไปตามข้อเท็จจริงว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ เพราะจริงๆ แล้ว โครงการที่เป็นปัญหาเป็นโครงการที่ค้างมาและคิดว่าได้รับอนุญาตให้ดำเนินการไปแล้ว แต่เมื่อมีปัญหาเรื่องคำสั่งศาลปกครอง และโครงการใหม่นั้นจะเข้ามาตามกระบวนการใหม่ก็เท่านั้นเอง เมื่อถามว่า การแก้ปัญหานี้จะรวมทั้งการแก้ปัญหาที่มาจากการวางผังเมืองที่ผิดพลาดด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ต้องไล่แก้ปัญหากันไปในลักษณะที่มีการเยียวยาด้วย รวมทั้งมีมาตรการที่เข้มงวดกวดขันว่าทำอย่างไรที่จะมีการติดตามข้อมูลในลักษณะที่เป็นปัจจุบันได้ตลอดเวลา เพื่อจะได้แก้ไขปัญหานี้ต่อไป

เมื่อถามว่า นายกฯจะบอกกับเจโทรอย่างไรว่าไม่ได้ออกกฎหมายมาปิดกั้นการลงทุน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เจโทรต้องเข้าใจอยู่แล้ว ว่าเรื่องนี้เป็นความชัดเจนว่าไม่ได้เป็นนโยบายที่ไม่อยากรับการลงทุน แต่เป็นเรื่องที่ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องมีมาตรฐานเข้มงวดกวดขันมากขึ้น และคงต้องเข้าใจว่าต่างประเทศก็มีเรื่องลักษณะนี้เช่นกัน เมื่อถามว่า ภายใน 6 เดือนจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า โครงการทั้งหลายยังหวังว่าจะเดินไปได้ ความจริงจะเร็วมากกว่า 6 เดือนหลายโครงการ และจะพยายามดูว่าจะเร่งรัดอย่างไร แต่ว่าทั้งหมดความชัดเจนคือหัวใจสำคัญ กรอบเวลาจะ 6-8 เดือนหรือสั้นกว่านั้น ไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่ากับความแน่นอน ในส่วนของคณะกรรมการที่จะมาดูในเรื่องของการสรรหากรรมการองค์กรอิสระที่จะตั้งขึ้นเพื่อประสานงานดูในเรื่องของการลงทุนในอนาคตนั้น จะเข้าสู่การพิจารณาของการประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า ที่จะตั้งเป็นองค์กรอิสระโดยจะมาจากฐานของคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานกรรมการกลางประสานงาน เพื่อสรรหากรรมการองค์กรอิสระ ตาม มาตรา 67 วรรค 2 ที่จะดูเรื่องการลงทุนและสิ่งแวดล้อมทั้งกรณีมาบตาพุดด้วย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.45 น. ขณะที่นายอภิสิทธิ์เดินทางมาพบประชาชนที่บริเวณวัดหนองแฟบ เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าโกลว์ ถนนไอ 5 เกิดขัดข้องทำให้ระบบการผลิตและระบบบำบัดต้องหยุดทำงาน ต่อมามีผงฝุ่นสีเทาตกค้างในระบบการผลิต พุ่งออกจากปล่องระบายอากาศ เกิดกลุ่มควันสีเทาฟุ้งกระจายจับท้องฟ้า โดยขณะเกิดเหตุเป็นช่วงกระแสลมพัดลงสู่ทะเล อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุประมาณ 15 นาที เจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้าสามารถแก้ไขระบบให้กลับสู่ปกติได้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เวลา 16.00 น. นายอภิสิทธ์ เดินทางต่อเพื่อร่วมการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษกับทีมราชนาวีระยอง ที่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมประท้วงหน้าสนามกีฬากว่า 100 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดช่องจราจรทางเข้าสนามกีฬา ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก