"ประสงค์"ชี้"แม้ว"เคลื่อนไหวไร้ผล อดได้เงินคืน ศาลหวั่นคำพิพากษายึดทรัพย์รั่ว ลงมติเช้า-บ่ายอ่าน "ประสงค์"ชี้"แม้ว"เคลื่อนไหวไร้ผล เมื่อถามว่า ก่อนวันตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท สถานการณ์จะรุนแรงขึ้นหรือไม่ น.ต.ประสง กล่าวว่า มองเป็น 2 ช่วง คือ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมนี้จนถึงวันตัดสิน 26 กุมภาพันธ์ และหลังวันตัดสิ นหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ตามที่อยากจะให้เป็น ก็อาจเกิดความรุนแรงขึ้นได้อีก แหล่งข่าวผู้พิพากษากล่าวถึงคดียึดทรัพย์ว่า หลังจากศาลฎีกาฯไต่สวนพยานเสร็จสิ้นและนัดฟังคำพิพากษา ในบ่ายวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ตามขั้นตอน องค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน จะต้องพิจารณาสำนวนคดี เอกสารหลักฐานและคำเบิกความของพยานฝ่ายอัยการสูงสุดผู้ร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และผู้มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีทรัพย์ ผู้คัดค้าน และพยานที่ศาลเรียกมาไต่สวนเพิ่มเติม เพื่อทำคำวินิจฉัยส่วนตัวของผู้พิพากษาแต่ละคนในองค์คณะ ก่อนกำหนดนัดวันประชุมลงมติวินิจฉัยข้อพิพาทคดีในแต่ละประเด็น แล้วเขียนคำพิพากษากลางด้วยมติเสียงข้างมากขององค์คณะ และเพื่อป้องกันคำพิพากษารั่วไหล องค์คณะอาจนัดประชุมพิจารณาลงมติกันในช่วงเช้าวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ก่อนอ่านคำพิพากษาทันทีในช่วงบ่าย โดยคดีนี้แม้ พ.ต.ท.ทักษิณและผู้คัดค้าน จะไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษา องค์คณะก็สามารถอ่านคำพิพากษาได้ทันที เพราะเป็นคดียึดทรัพย์ ที่พิจารณาว่าทรัพย์นั้นได้มาถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แต่ไม่ได้มีโทษจำคุก อย่างไรก็ดี ในช่วงที่องค์คณะฯ ร่างคำวินิจฉัยส่วนตัว คงไม่จำเป็นต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่มาคุ้มครองดูแล คงทำงานไปตามปกติ ไม่น่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้น ทนายแม้วร่างคำแถลงปิดคดียึดทรัพย์ย้ำคตส.ออกคำสั่งไม่ชอบด้วยกม "แม้ว"มอบทนายร่างคำแถลงปิดคดียึดทรัพย์7.6หมื่นล้านแล้ว เมื่อวันที่ 15 ม.ค. นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เรื่องนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มอบให้ทีมทนายความนำข้อเท็จจริงต่างๆสู่ศาลครบถ้วน เป็นทรัพย์สินที่ได้มาก่อนเป็นนายกรัฐมนตรีและเมื่อได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้โอนทรัพย์สินให้กับลูกเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ในช่วงที่พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ดำเนินมาตราการอะไรที่ตัวเองได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตามขณะนี้ทีมทนายความกำลังอยู่ระหว่างการยกร่างคำแถลงปิดคดี ซึ่งตนไม่สามารถพูดอะไรได้เนื่องจากต้องเคารพศาล และหวังว่าจะได้ความยุติธรรมจากศาล
เว็บไซต์ผู้จัดการรายงานเมื่อวันที่ 16 มกราคมว่า น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธานสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ระบุ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไม่สามารถสร้างสถานการณ์และเล่นเกมทางการเมืองให้ถึงจุดแตกหักได้ เพราะอย่างไรก็ไม่สามารถกดดันกระบวนการยุติธรรมให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และการดำเนินการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกอย่างในขณะนี้ ทำเพื่อประโยชน์ตนเองเท่านั้น
น.ต.ประสงค์ กล่าวย้ำว่า ยังคงคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองอยู่ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการแก้ไข เพื่อประโยชน์ของพวกนักการเมือง ไม่ใช่เพื่อแก้ไขเพื่อประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ
ศาลฯกันรั่วลงมติเช้า-บ่ายอ่าน
นายฉัตรทิพย์ ตัณฑประศาสน์ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว กล่าววันที่ 15 มกราคมถึงการร่างคำแถลงปิดคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาทว่าทีมทนายความกำลังร่างคำแถลงคาดว่าภายใน 2 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ แล้วจัดส่งร่างให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตรวจพิจารณาก่อนว่าจะเพิ่มเติมประเด็นใดหรือไม่ โดยประเด็นจะย้ำให้ศาลฎีกาฯ พิจารณาข้อกฎหมาย เรื่องอำนาจการไต่สวนคณะกรรมตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในการออกคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เนื่องจากคำสั่งการแต่งตั้ง คตส. ไม่ได้ให้อำนาจพิจารณาข้อกล่าวหาเรื่องพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ แต่ให้พิจารณาคดีเกี่ยวกับความเสียหายแก่รัฐ รวมทั้งปัญหาที่มีการร้องเรียน คตส. 3 คน คือ นายแก้วสรร อติโพธิ นายกล้านรงค์ จันทิก และนายบรรเจิด สิงคเนติ ที่เป็นปฏิปักษ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่การสืบพยานก็แสดงให้เห็นเพียงว่า นโยบาย 5 เรื่องที่ คตส.อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปเกี่ยวข้องขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีเพียงเรื่องการออก พ.ร.บ.จัดเก็บภาษีสรรพสามิต และการปล่อยกู้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (เอ็กซิมแบงก์) ให้รัฐบาลพม่า
ส่วนนโยบายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขสัญญาสัมปทานการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และดาวเทียมไอพีสตาร์ก็ไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน ขณะที่นโยบายเรื่องปล่อยกู้รัฐบาลพม่า พยานฝ่ายโจทก์ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็เบิกความแล้วว่า การปล่อยกู้เป็นแบบเครดิตไลน์ ที่เมื่อให้กู้แล้วเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลพม่ากับเอ็กซิมแบงก์ ว่าจะนำเงินไปใช้ในส่วนใด และที่รัฐบาลพม่าจะขอกู้ไปใช้ในกิจการโทรคมนาคม ก็มีการพิจารณาแล้วไม่ได้ให้วงเงินกู้เพิ่มในส่วนนั้น ซึ่งนายสุรเกียรติ์ ให้ความเห็นไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายพายัพ ชินวัตร น้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าหากท้ายที่สุดศาลพิพากษายึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณจะทำให้บ้านเมืองพังได้ นายนพดล กล่าวว่า ตนไม่อยากไปคาดการณ์อะไรไปไกลขนาดนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ และคนเสื้อแดงรักประชาธิปไตยไม่ต้องการเห็นบ้านเมืองวุ่นวาย อยากเห็นบ้านเมืองสงบ แต่มุมมองของเราบ้านเมืองจะสงบได้ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองมีความยุติธรรมและมีประชาธิปไตย สิ่งนี้ถือเป็นแนวทางการเคลื่อนไหวของคนที่รักประชาธิปไตย
นายนพดล กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ทราบข้อมูลพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางมาประเทศกัมพูชาในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ทราบเพียงว่าขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางอยู่แถวทวีปเอเชีย
ประสงค์ชี้แม้วเคลื่อนไหวไร้ผล อดได้เงินคืน ศาลหวั่นคำพิพากษายึดทรัพย์รั่ว ลงมติเช้า-บ่ายอ่าน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ประสงค์ชี้แม้วเคลื่อนไหวไร้ผล อดได้เงินคืน ศาลหวั่นคำพิพากษายึดทรัพย์รั่ว ลงมติเช้า-บ่ายอ่าน