มาร์คยันอสส.ไม่กดดันคดีซาอุฯ ย้ำทำตามข้อเท็จจริงของสำนวน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ถึงกรณีที่นายนาบิล ฮุสเซ็น อัซรี อุปทูตราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบในช่วงเช้า ว่า ไทยกับซาอุฯ พยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ และทราบว่าคดีความต่างๆ เป็นสิ่งที่ที่ทางการซาอุฯ จับตามองอยู่ ซึ่งได้ยืนยันไปว่ารัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซง และเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องในการทำคดีได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ซึ่งในปี 2552 ก็มีความคืบหน้าไปหลายเรื่องหลายคดี แต่ดุลพินิจของผู้เกี่ยวข้อง อาทิ อัยการก็เป็นอิสระ แต่ได้ย้ำไปว่าการใช้ดุลพินิจนี้จะเป็นไปตามข้อเท็จจริง ตามสำนวน ไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า การที่อุปทูตซาอุฯ เดินสายไปพบบุคคลสำคัญรวมถึงนายกฯ เป็นการกดดันการทำหน้าที่ของอัยการหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้คุยกับอัยการแล้ว โดยบอกไปว่าทั้งหมดนี้อย่าให้ใครมากดดันแทรกแซงทั้งสิ้น ขอให้ดำเนินการไปตามข้อเท็จจริงของสำนวน ซึ่งอัยการสูงสุดได้ยืนยันกับตนว่าไม่กังวลกับกระแสกดดัน ไม่ว่าจะด้านไหนทั้งสิ้น หรือการแทรกแซง และจะเดินหน้าทำตามข้อเท็จจริงและกฎหมาย

เมื่อถามย้ำว่า หากอัยการสั่งคดีในทางใดทางหนึ่ง ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะเกิดผลกระทบต่อความสำคัญระหว่างประเทศ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "มันจะมีผลอย่างไรก็ตาม แต่ภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดคือการสั่งคดีตามข้อเท็จจริง ซึ่งอันนี้อัยการได้รับความมั่นใจจากรัฐบาลว่าเรื่องนี้ต้องไม่ให้มีการแทรกแซง กดดัน และท่านได้ยืนยัน"

ผู้สื่อข่าวถามว่า อุปทูตซาอุฯเข้าใจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เข้าใจ ตอนคุยกันท่านก็บอกว่าเรื่องนี้ทราบดีว่าไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซง เพียงแต่ขอให้ความมั่นใจเรื่องความเป็นธรรมของกระบวนการ ซึ่งเราก็ยืนยัน