รูดม่าน8ปีไทยรักไทย กระชากฝันสถาบันการเมือง

หากจะบอกว่า "มาเร็วกว่าที่คิดไว้" ก็คงไม่ผิดนักสำหรับภาพการล่มสลายของอดีตค่ายการเมืองใหญ่ "ไทยรักไทย"

ปิดตำนาน "อภิมหาพรรคการเมือง" เจ้าของสโลแกน "คิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน" ไปโดยปริยาย

หลังจาก "ราชินีผึ้ง" ตัดสินใจทิ้งรังในนาทีสุดท้าย ด้วยการร่อนจดหมายน้อยที่บรรจงเขียนด้วยลายมือ ส่งตรงมาจากลอนดอน

ประกาศความ "ปราชัย" ด้วยการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ที่ดำรงมายาวนานถึง 8 ปีเต็ม

เปิดทางให้มีการล้างไพ่ ตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

ทั้งที่ความเป็นจริงย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า เหตุของการตัดสินใจ "ทิ้งรัง" มาจากปรากฏการณ์ "ผึ้งแตกรัง" ขนานใหญ่กว่าครึ่งร้อย ก่อนหน้านี้เพียงแค่วันเดียว

อย่างกลุ่มวังน้ำยมของ สมศักดิ์ เทพสุทิน รองหัวหน้าพรรค และ สุริยะ จึงรุงเรืองกิจ เลขาธิการพรรค กลุ่มชลบุรีของ สนธยา คุณปลื้ม

กลุ่มบ้านริมน้ำของ สุชาติ ตันเจริญ

กลุ่มภาคกลางของ สรอรรถ กลิ่นประทุม

หรือแม้แต่อดีตแกนนำที่เคยเป็น "แม่ทัพนายกอง" สายวังจันทร์ส่องหล้า อย่าง ภูมิธรรม เวชยชัย รองเลขาธิการพรรค สุรนันทน์ เวชชาชีวะ กรรมการบริหารพรรค สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองหัวหน้าพรรค ปองพล อดิเรกสาร วัฒนา เมืองสุข วราเทพ รัตนากร

ไม่เว้นกระทั่งอดีตแคนดิเดตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่พร้อมใจกันยื่นใบลาออกจากสมาชิกและกรรมการบริหารพรรค

รวมยอดสมาชิกไทยรักไทยลาออก ล่าสุดก็พุ่งไปกว่า 107 คน และคาดว่าจะมีสมาชิกกลุ่มที่เหลือ ทยอยแห่ยื่นใบลาออกตามมุ้งอื่นๆ อีกล็อตใหญ่

ซึ่งคาดว่าจะหมดพรรคในอีกไม่เกินวันสองวันนี้!!!

ทั้งในส่วนของกลุ่มลำตะคองของ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ กลุ่มวังพญานาคของ พินิจ จารุสมบัติ

ตลอดจนอดีต ส.ส."นกแล" ที่สอบผ่านได้เก้าอี้ ส.ส.มาพร้อมกระแส "ทักษิณ-ไทยรักไทยฟีเวอร์" ก็กำลังทยอยยื่นใบลาออกตามอีกเป็นโขยง

ไม่ต้องดูอื่นไกล ดูอย่างมุ้งใหญ่วังน้ำยม ที่เริ่ม "ไหวตัว" ก่อนมุ้งไหนๆ

แกนนำมุ้ง 2 ส. "สมศักดิ์-สุริยะ" เรียก ส.ส.ถกเครียดทันที ก่อนนำร่อง ส.ส.ส่งใบลาออกหวังรอด

มีรายงานว่า ทั้ง "สมศักดิ์-สุริยะ" ประเมินทิศทางลมตอนนี้แล้ว ต่างเห็นพ้องกันว่า ประกาศของ "คปค." ทำให้สถานการณ์ของพรรคอยู่ในภาวะอันตราย

จำต้องรีบตัดสินใจ "สละเรือ" ก่อนที่จะจมไปกับพรรค

"สาเหตุประการหนึ่ง นอกจากความสมานฉันท์แล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือสมาชิกให้เกิดความชัดเจน ขณะนี้ผู้แทนฯ ที่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง คงไม่เหมาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่จะไปช่วยเหลือชาวบ้านได้ จึงอยากไปในฐานะที่เป็นอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมือง เพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย

ส่วนอนาคตจะไปทางไหนต่อ เมื่อถึงเวลาผมจะบอกความชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งเป็นไปได้หลายอย่าง จะตั้งพรรคใหม่ก็ได้ หรือจะย้ายไปพรรคไหนก็ได้ แต่ตอนนี้ขอนิ่งๆ ให้รวมตัวกันก่อน" นายสมศักดิ์ กล่าว

แต่ขณะเดียวกัน ในอีกมุมหนึ่งกลับมีเสียงแย้งดังมาจากทีมกฎหมายและการเมืองของพรรค อย่าง พงศ์เทพ เทพกาญจนา และ วีระ มุสิกพงศ์ ที่ออกมาบลัฟกลับอดีตแกนนำมุ้ง ทำนองว่า...

"ยังไงก็หนีไม่รอด"!!!

เพราะแม้วันนี้ บรรดาแกนนำหัวหน้ามุ้งจะพากันตัดสินใจสลัดเก้าอี้ "กรรมการบริหารพรรค" เพื่อหนีตาย

แต่หากมีการสั่งยุบพรรคไทยรักไทยจริง คงไม่มีผลใดๆ ในทางกฎหมาย

อย่างน้อยๆ นักกฎหมายหลายคนก็วิเคราะห์ตรงกันว่า น่าจะยึดเอาช่วงเวลาที่มีกระทำผิดเกิดขึ้นเป็นสำคัญมากกว่า

เพราะฉะนั้น ถ้าประเมินกัน ณ เวลานี้ ย่อมหนีไม่พ้นธงที่ตั้งไว้แล้วว่า "ฟันแน่"

จะเริ่มเห็นหน้าเห็นหลัง ก็หลังจากตั้งตุลาการรัฐธรรมนูญครบ ไม่เกินสัปดาห์นี้นั่นแหละ

สฤต สันติเมทนีดล อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังธรรม และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย พูดได้คำเดียวว่า "ทักษิณ" ไม่ควรคิดกลับมาเล่นการเมืองอีก อยู่กับครอบครัวดีที่สุด

"เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผมเคยเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าควรลาออกจากตำแหน่งนายกฯ และทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพียงอย่างเดียว มันจะมีผลดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มากกว่านี้ ผมอยากไปพูดเรื่องนี้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แบบส่วนตัว แต่ไม่มีโอกาส จึงบอกผ่านสื่อมวลชน แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สนใจ และผมยังโดนแกนนำพรรคบางคนตำหนิด้วย"

"ทราบมาว่า ร.ต.อ.ปุระชัย เคยเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ หลายครั้งแล้วในเรื่องการทำงานทางการเมืองว่า ควรอยู่ในอุดมการณ์ และพรรคต้องเป็นของประชาชนจริงๆ ไม่ใช่สมบัติของใครคนใดคนหนึ่ง เพื่อที่จะได้สร้างพรรคให้เป็นสถาบัน การตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันนี้ เท่ากับว่าพรรคน่าจะถึงจุดล่มสลายแล้ว"

พรรคไทยรักไทยจึงเดินมาถึงจุด "ล่มสลาย"

รอวันปิดฉากฝัน "สถาบันการเมือง" ณ ปีที่ 8 เพียงเท่านั้น!!!