เทพไทเปิดตำราด่ายกภาษิตเปรียบเทียบเจ็บแสบคันขุดคำด่าวันละคำ

รวมวาทะเด็ดผ่านฝีปากเดือดโฆษกแดนสะตอระดับ"เทพ(ไท)" เชือดเฉือนกรีดเนื้อฝ่ายตรงข้ามในสงครามการเมืองตลอดปี

คุณสมบัติอันดับต้นๆของนักการเมืองที่ต้องมีคือ "ฝีปาก" ต้องหมั่นฝึกปรือลับให้คม

เพื่อจะได้ไว้ฟาดฟันฝ่ายตรงข้ามในสงครามน้ำลาย อาจจะแบ่งเป็นระดับพวกขั้นเทพจะถูกเลื่อนขั้นให้เป็น "โฆษก" ไม่ว่าจะเป็นโฆษกพรรค โฆษกรัฐบาล โฆษกส่วนตัว มีปากไว้เพื่อตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามชนิดทันควันและคม เฉือนฝ่ายตรงข้ามให้เจ็บๆ คันๆ 

หนึ่งในโฆษกที่ฉกประเด็นมาสวนฝ่ายตรงข้ามแบบที่เรียกว่าต้องทำการบ้านกันทีเดียว คงจะต้องยกให้โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ มีประเด็นพูดได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการในการออกมาปกป้องและสวนกลับฝ่ายตรงข้ามที่มุ่งร้ายกับหัวหน้าพรรคเป็น "องค์รักษ์" ที่มีฝีปากเป็นอาวุธ

การลับฝีปากของโฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่จะเลือกลับคมกับกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแต่นายใหญ่ แกนนำ และสาวก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สวนกลับทันทีเมื่อถูกพ.ต.ท.ทักษิณทวิตพาดพิงว่ารัฐบาลเป็นเป็ดขี้เหร่ ปรับครม.อย่างไรก็ไม่เป็นหงส์ ดีกว่า "รัฐบาลซาตานจำแลง มีการกลายพันธุ์ เก้าอี้รัฐมนตรีก็เป็นเก้าอี้ดนตรี มีการปรับครม.หนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ" พร้อมกับเหน็บอดีตนายกฯที่นั่งจ้องทวิตว่าเป็นพวก "จิตฟุ้งซ่าน ว้าเหว่ ไม่มีงานทำ" 
 
ขนาด พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) สามาชิกพรรคเพื่อไทย อดรนทนฟังวาจาของโฆษกผู้นี้ไม่ได้จนต้องควักเอาวิชาดูโหงวเฮ้งมาใช้ออกปากแช่งชักหักกระดูก ว่า "พูดอะไรชอบบิดเบือน  เป็นคนหน้าผากสั้น โหงวเฮ้งไม่ค่อยดี คนประเภทนี้ อายุไม่ยืน จะต้องตายโหง"

ดูเหมือนว่านายเทพไทอาจจะไม่อยากตอบโต้พวกมีสีสักเท่าไร จึงหันมาเล่นงาน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย

ที่มักจะมีอะไรมาแฉให้โฆษกหัวหน้าพรรค ปชป.ต้องรำคาญ ออกมาแก้ต่างให้รัฐบาลเรื่อยไปถึงกับตั้งฉายาให้ว่าเป็น "นักเสี้ยมระหว่างชาติ" หลังจากที่เกิดปัญหาระหว่างไทย-เขมร เมื่อสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เปิดประตูรับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเปิดเผยไม่สนใจสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนแถมตั้งให้เป็นที่ปรึกษาอีกด้วย จึงเรียกกรณีศึกษานี้ว่าเป็นการสร้างภาพแบบ "ผีหลอกผี โจรคบโจร" พร้อมกับวิจารณ์ภาพที่ทั้งสองสวมกอดกันว่าเป็น "คู่สร้างคู่สมระหว่างพญาละแวกและพญาละวอก" ที่กอดกันเหนียวแน่น เปรียบเทียบการบรรยายเรื่องเศรษฐกิจ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ให้นักเศรษฐกิจและนักเศรษฐศาสตร์กัมพูชาฟังเหมือน "โจรขึ้นธรรมาสน์เทศสอนพระธรรมแทนพระ" และไล่ให้พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนชื่อเป็นพรรค "เพื่อเขมร" แทน 

การสรรหาคำเปรียบเปรยมาเหน็บแนมฝ่ายตรงข้ามยังคงมีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอถึงขั้นยกให้ตัวเองเป็น"พระยาปราบกบฎ" ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยยกให้เป็น "พระยา" และไม่ยอมรับว่าเป็น "พระยาเทครัว" เพราะระลึกชาติไม่ได้

ต้องยอมรับว่าวิวาทะของนายเทพไทเมื่อไปกระทบหูฝ่ายตรงข้ามย่อมจะเคืองแค้นกลายเป็นโทรโขงพ่นมลพิษรายวันจนต้องหาอุปกรณ์มาปิดปาก

ซึ่งนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย หิ้วกระทงขนมปังบรรจุที่ครอบปากสุนัขฝากไปครอบปากนายเทพไทก่อนนำกระทงไปลอยน้ำเพื่อจะได้หยุดพูดในเทศกาลลอยกระทง ปล่อยสิ่งไม่ดีให้ไหลไปตามน้ำเสียบ้าง อย่าขวางไปทุกเรื่องอย่างพวก"ทหารเลว" ที่มาร้องด่าหน้าค่ายเบบสามก๊ก โดยนายสุรชัย แซ่ด่าน แกนนำ นปช.เป็นคนเรียกและเตือนว่าการออกมาด่าอดีตนายทหารรุ่น ตท.10 ที่เข้าซบพรรคเพื่อไทยว่าเป็น"สุสานคนแก่-สุสานนายพล"ให้เกรงใจคนชราอย่าง "ป๋า" บ้าง  
 
ความอาวุโสในเวทีการเมืองอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมาก อย่าง"พ่อใหญ่จิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ

โฆษกมาร์คยังเปลี่ยนให้เป็น "พ่อใหญ่ลา"เปรียบเทียบว่ามีอะไรเข้ามาจะชิงลาออกแทบทุกครั้ง และไม่ลืมที่จะแวะไปแขวะเสื้อแดงเมื่อครั้งจัดคอนเสิร์ตในงานระดมทุนที่ โบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา วันที่ 14 พ.ย.ใช้ชื่อว่า "เพื่อนร่วมร้อง พี่น้องร่วมรบ" เป็น "เพื่อนร่วมกิน ทักษิณร่วมจ่าย" ของกลุ่ม "แดงเดด" ทำตัวเป็นเหมือนวัวสันหลังหวะ กลัวอีกาและแมลงวันจิกตอมแผล พยายามใส่ร้ายป้ายสีองค์กรอิสระ จัดชุมนุม 19 กันยา เหมือนพวก ตรงกับงานบุญเดือนสิบของภาคใต้ ซึ่งมีเทศกาล "ชิงเปรต" ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผีเปรตที่มาชุมนุมขอรับส่วนบุญส่วนกุศลจากญาติ 
 

ก่อนจะวกมาจิกกัดพรรคเพื่อไทยว่าเป็น"พรรคผีหัวขาด" เมื่อประธานส.ส. พรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ออกมาเหน็บว่ารัฐบาลชุดนี้อย่าเพิ่งยุบสภาเสียก่อน เพราะจะได้ตายอย่างสนิทนั้น และสวนทันควันว่า ใครกันแน่ที่เป็นผู้ตายสนิท บางพรรคเป็นผีหัวขาด ไม่มีใครกล้ารับตำแหน่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภา  

เมื่อฟาดฟันกันด้วยสงครามน้ำลายมาสักพักนักเลงอย่าง "เก่ง การุณ โหสกุล" ส.ส.กทม.

ประกาศท้าแลกหมัดตัวต่อตัวกับโฆษกหัวหน้าพรรคปชป.ยุให้กรวดน้ำคว่ำขัน วันคล้ายวันเกิด 60 ปี "ทักษิณ"อย่าจองเวรจองกรรมกับประเทศชาติ ทำปากเก่งกับคนที่อยู่ไกลและขอขันอาสาในฐานะคนอยู่ใกล้สวมนวม ไม่เกี่ยงส่วนสูง น้ำหนัก ดวลกันตัวต่อตัว
 
น่าเสียดายที่ "เทพไท" ไม่ได้รับคำท้า ไม่งั้นคงจะได้ดูมวยไฟลท์การกุศลเพิ่มอีก 1 คู่  สงครามน้ำลายจึงต้องยุติเพียงเท่านี้..