เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย (ทรท.) กล่าววิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในปี 2553 ว่า
เชื่อว่าการเมืองจะมีความเข้มข้น เพราะฝ่ายค้านและกลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมเปิดเกมรุกรัฐบาลทั้งในและนอกสภา ขณะเดียวกันรัฐบาลก็มีปัญหารุมเร้าจากกรณีพบปัญหาการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็ง จนนายวิทยา แก้วภราดัย รมว. สาธารณสุข (สธ.) ต้องลาออก และส่งผลให้มีการปรับครม. ซึ่งทุกครั้งที่มีการปรับครม. จะเกิดปัญหาต่อเนื่อง เพราะคนที่ต้องออกก็รู้สึกไม่พอใจ ส่วนคนที่รอเข้ามาดำรงตำแหน่งใหม่ สมมุติมี 4 คน แต่ได้เข้าแค่คนเดียว อีก 3 คนก็จะมีปัญหา ดังนั้นรัฐบาลต้องเตรียมยุทธศาสตร์รับมือและแก้เกมทั้งในและนอกสภา ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งทำงานให้เป็นที่ประจักษ์
“ผมยังเชื่อในฝีมือของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เรื่องการชี้แจงและตอบโต้ในสภา ดังนั้นน่าจะผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้ ส่วนใหญ่รัฐบาลผสมมักอยู่ได้นาน เพราะคานกันไปมา ช่วยกันดึงกันไป และคิดว่าการยุบสภาไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เพราะยังไม่มีพรรคไหนอยากให้ยุบสภา” นายปองพลกล่าว
นายปองพลกล่าวต่อว่า
ความจริงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีตัวช่วยเยอะ อย่างโพลล์หลายสำนักที่ออกมาก็ระบุว่ามีประชาชนไม่ฝักใฝ่สีไหนถึงร้อยละ 50 ก็อยู่ที่ว่าจะใช้ประโยชน์ตรงนี้ได้อย่างไร อีกทั้งนายกฯ ยังมีคุณสมบัติดี แต่อาจด้อยประสบการณ์ไปบ้าง แต่สามารถชดเชยได้ด้วยการหาที่ปรึกษามาช่วย อย่างนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังตั้งทีมที่ปรึกษากว่า 100 คน
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีเงินบริจาคนอกระบบของปชป. 258 ล้านบาท จะเป็นชนวนให้เกิดปัญหาในรัฐบาลหรือไม่นั้น เพราะถูกวิจารณ์ว่า 2 มาตรฐาน นายปองพลกล่าวว่า
ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ที่ผ่านมาก็มีการยุบมาหลายพรรคแล้ว พรรคใหญ่กว่าประชาธิปัตย์ยังเคยโดนยุบมาแล้ว
เมื่อถามว่า อดีตกก.บห. ในบ้านเลขที่ 111 และ 109 จะเคลื่อนไหวร่วมกันเพื่อกดดันให้กกต. และศาลรัฐธรรมนูญสร้างบรรทัดฐานในเรื่องนี้หรือไม่ นายปองพลกล่าวว่า
อย่าไปอยู่กับอดีต ไม่เช่นนั้นเรื่องก็ไม่จบ การถูกตัดสิทธิของ 111 กับ 109 มีที่มาจากกฎหมายคนละฉบับ ดังนั้นการเคลื่อนไหวร่วมกันคงไม่มี คนเป็นนักการเมืองสามารถดำรงตำแหน่งได้เพียง 4 ปีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เขาให้พักเพิ่มอีก 1 ปีก็ไม่เห็นจะเป็นไร อย่างตนก็ไม่มีปัญหาเลย
เมื่อถามว่า สนับสนุนแนวทางของนายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ที่ให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่ อดีตกก.บห.ทรท. กล่าวว่า
ที่การเมืองไทยวุ่นวายเพราะทุกคนคิดถึงแต่ตัวเอง เมื่อมาพูดให้ตัวเอง บางครั้งก็อาจไปขัดกับความคิดของคนอื่น เรื่องจึงไม่จบ อย่างครอบครัว “อดิเรกสาร” โดนตัดสิทธิถึง 3 คน เราก็ยอมรับ ไม่ได้ไปโวยวาย เพราะคิดว่าถึงเวลาก็ได้กลับมา
นอกจากนี้ นายปองพลยังกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า
ทุกคนคิดเข้าข้างตัวเอง อย่าง พล.ต.อ. ประมาณ อดิเรกสาร อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย จะสอนลูกๆ ว่าเล่นการเมืองเมืองไทย ต้องฟังข่าวร้ายมากกว่าดี ข่าวร้ายมาต้องหูผึ่ง เพราะมันอาจทำให้ถึงแก่ชีวิต และไม่มีแผ่นดินจะอยู่
เมื่อถามว่า แสดงว่าพ.ต.ท. ทักษิณฟังแต่ข่าวดีใช่หรือไม่ นายปองพลกล่าวว่า
ใช่ ตนเป็นคนหนึ่งที่เคยเตือนพ.ต.ท. ทักษิณสมัยอยู่ทรท. แต่ก็ไม่ฟัง ก็น่าเสียดาย เวลานี้ทุกฝ่ายรวมถึงพ.ต.ท. ทักษิณควรหยุดได้แล้ว