“ใครเข้มแข็ง?” ยันยึดแนวทางทำงานบนโพเดียมต่อไป เพราะต้องการสื่อสารกับกลุ่มต่าง ๆ
วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.
ถึงความรู้สึกที่ได้รับการตั้งฉายา “หล่อหลักลอย” ว่า “อยากถามคนตั้งเหมือนกันว่า รู้สึกอย่างไร อ่านข่าวแล้วตนก็รับคำวิจารณ์ ถ้าจะให้เจ้าตัวไปตอบก็กระไรอยู่ ถ้าโต้เถียงกันเดี๋ยวก็บอกว่าใจแคบ ถ้ารับเดี๋ยวก็บอกว่า อ๋อ! แสดงว่าจริง เอาเป็นว่ารับรู้ รับทราบ แต่ไม่พิจารณา
เมื่อถามว่า นายกฯ เป็นคนหลักลอยจริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงไม่จริงก็อยู่ที่การกระทำ
ส่วนฉายารัฐบาล “ใครเข้มแข็ง?” นั้น เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันต่อไปว่า สิ่งที่ทำมาทั้งหมดบ้านเมืองเข้มแข้งหรือไม่ และเศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่ วันนี้ก็มีคนเข้มแข็งไปแล้วหลายคน เงินที่ออกไปในล็อตแรกก็มีการปล่อยสินเชื่อให้หลายคนที่ไม่มีโอกาสก่อนหน้านี้ คนเหล่านี้ก็เข้มแข็งขึ้นแล้ว ยังมีโครงการถนนไร้ฝุ่นอีก คนที่ได้ใช้ทางสัญจรไปมาชุมชนแถวนั้นก็เข้มแข็งขึ้น
เมื่อถามว่า มีเสียงวิจารณ์ว่า นายกฯ มักทำงานหลังโพเดียม ในปี 2553 จะปรับแนวทางการทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวย้อนว่า ถ้าอยู่ข้างหน้าก็ไม่ได้ยินกัน
ตนท้าให้ดูว่าการตัดสินใจว่า การสั่งราชการ การประชุมของตนน้อยกว่าหรือมากกว่า การที่ตนต้องไปงานต่าง ๆ เพื่อแสดงความคิดเห็น เพราะเห็นแล้วว่า จุดอ่อนของสังคมไทยในหลายปีที่ผ่านมา คือ ผู้นำไม่พยายามสื่อสาร มีแต่การสื่อสารในลักษณะการตอบโต้ทางการเมือง ไม่พยายามไปสื่อสารให้ผู้เกี่ยวข้องกับนโยบายนั้น ๆ เข้าใจ ตนเดินทางมาทั้งปี ได้พบกลุ่มคนจำนวนมาก ซึ่งคนเหล่านั้นได้มาบอกกับตนเองว่า ถ้าไม่มีโอกาสได้ฟัง ก็ไม่ทราบ มีช่องว่างตลอดระหว่างภาครัฐกับเอกชน และภาครัฐกับประชาชน อีกทั้งหลายเรื่องที่ตนไป ก็ทำให้ได้เรียนรู้ปัญหาของประชาชน เพราะมันไม่มีรายงานผ่านระบบราชการขึ้นมา ดังนั้น ตนยืนยันแนวทางนี้ และไม่ได้เบียดบังเวลาของใครเลย.