คมชัดลึก :อภิสิทธิ์รับปธน.อินโดฯช่วยไกล่เกลี่ยฮุนเซน กต.ยันเอกสารลับระบุชัดไม่แทรกแซงไม่ต้องแจงเขมร กมธ.ชายแดนไม่เชื่อไทยมีพลังก่อปฏิวัติในเขมร
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 25 ธ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา ออกมาแสดงความไม่พอใจกับเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่พรรคเพื่อไทยนำมาเปิดเผย เป็นการวางแผนก่อการรัฐประหารในประเทศกัมพูชาว่า ไม่มีเรื่องที่ประเทศไทยจะไปทำอะไรอย่างที่กล่าวหา นโยบายของรัฐบาลไทยชัดเจนมากว่า 1.เราต้องการรักษาความสัมพันธ์ที่ดี ไม่มีความคิดที่จะใช้ความรุนแรง ไม่มีความคิดที่จะทำให้การค้าขายระหว่างกันได้รับผลกระทบ 2.รัฐบาลไทยไม่แทรกแซงกิจการภายในกัมพูชา และไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์หรือทำอะไรเกี่ยวข้องกับการเมืองภายในของกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเข้าใจผิดของสมเด็จฮุน เซน ที่ออกมาพูดผ่านสื่อจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตานานาชาติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ไม่หรอกครับ ต่างชาติเข้าใจข้อเท็จจริงดีว่านโยบายของประเทศไทยเป็นอย่างไร”
เมื่อถามอีกว่า กระทรวงการต่างประเทศต้องทำเรื่องชี้แจงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ไม่มีความจำเป็นอะไรเพราะผมและรัฐบาลไทยยืนยันมาตลอด แต่ถ้ากัมพูชาต้องการที่จะฟังฝ่ายค้าน ก็จะไปทำอะไรได้ นโยบายก็มาจากรัฐบาล ไม่มีอะไร เพราะท่านก็พูดไป ไม่มีผลอะไร”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีการรับลูกระหว่างการเมืองในประเทศและการเมืองนอกประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ผมบอกแล้วว่ามีคนที่ไปวุ่นวายกับเรื่องนี้อยู่ เป็นฝ่ายการเมืองของเราเอง ซึ่งก็น่าเสียดาย แทนที่จะช่วยกันทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น แทนที่จะช่วยกันทำให้เหตุการณ์สงบลง กลับไปหวังผลทางการเมืองของตัวเอง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการขยายผลจะทำให้เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ผมว่าคงไม่มี ขอให้ประชาชนคนไทยหนักแน่น รวมถึงพี่น้องชาวกัมพูชาด้วย ให้หนักแน่นว่ารัฐบาลไทยไม่มีแนวคิดที่จะไปทำอะไร จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาจะมีความร่วมมือทุกเรื่องต่อเนื่องมาตลอดเกือบทั้งปี ยกเว้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็เป็นการใช้มาตรการทางการทูต ส่วนกรณีการยกเลิกเงินกู้ก็เป็นฝ่ายกัมพูชาเองฝ่ายไทยไม่ได้เป็นฝ่ายยกเลิก”
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายซูซีโล บัมบัง ยูโดโย ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ออกมาระบุว่าพร้อมเป็นคนกลางในการเจรจา คุยกับตนมา 2 - 3 รอบ ในฐานะที่เป็นประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วย ตนเข้าใจว่าประธานาธิบดีอินโดนีเซียต้องการจะช่วยให้ทุกฝ่ายมีความเข้าใจที่ดีขึ้น อีกทั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้คุยกับสมเด็จฮุน เซน บ้างแล้วที่ประเทศสิงค์โปร์ ส่วนกรณีที่ท่านเข้ามาช่วยไม่ได้หมายความว่าเรื่องนี้เข้าสู่เวทีอาเซียน เพราะไม่ได้มีประเด็นที่ต้องไกล่เกลี่ยอะไร แต่ในฐานะที่อินโดนีเซียเป็นมิตรประเทศกับไทยและกัมพูชา จึงมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้นำทั้งสองประเทศ ซึ่งจากการพูดคุยตนก็หวังว่าจะสื่อสารได้ เพราะตนได้คุยแล้วอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมด
กต.ยันเอกสารลับระบุชัดไม่แทรกแซงไม่ต้องแจงเขมร
นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นำเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศของไทย ทูลเกล้าฯ ถวายกษัตริย์กัมพูชา และทางการกัมพูชานำไปตีความว่ารัฐบาลไทยพยามยามทำรัฐประหาร รัฐบาลกัมพูชานั้น ว่า รัฐบาลไทยไม่ได้จะเข้าไปแทรกแซงกิจการทางการเมืองภายในของประเทศกัมพูชา และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจงถึงข้อเท็จจริงให้ทางการกัมพูชาทราบ เพราะในเอกสารก็บอกไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่า ไทยไม่ได้มีเจตนาอะไรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองของกัมพูชา และเชื่อว่าประเทศอื่นๆก็มีความเข้าใจในการทำหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศไทย เพราะในเอกสารดังกล่าวได้บอกไว้ชัดเจนแล้ว
“กมธ.ชายแดน”ไม่เชื่อไทยมีพลังก่อปฏิวัติในเขมร
นายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงรายพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุว่ามีคนไทยบางกลุ่มจะก่อการปฎิวัติในกัมพูชา ว่า ไม่เชื่อว่าไทยจะมีพลังหรืออิทธิพลเพียงพอที่จะไปก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นในกัมพูชา เพราะการเมืองในกัมพูชามีความมั่นคงสูงมาก นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งติดต่อกันยาวนาน จึงสามารถที่จะขับเคลื่อนนโยบายได้อย่างต่อเนื่อง การปลุกกระแสปฎิวัติรัฐประหารในกัมพูชาจึงเป็นไปไม่ได้ น่าห่วงการเมืองในประเทศไทยมากกว่าที่มีการปฎิวัติรัฐประหารกันบ่อยครั้ง จนเป็นความเคยชิน เมื่อมีรัฐบาลที่เข้มแข็งเกินไปหรืออ่อนแอทหารก็จะออกมาทำรัฐประหาร
มท.1ยุรบ.ฟ้องยูเอ็นฮุนเซนปูดไทยปฏิวัติในเขมร
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าวมาก่อน คิดว่าเป็นข่าวโคมลอย ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะการปฏิวัติต้องเป็นบุคคลในประเทศนั้นๆเป็นผู้กระทำ ถ้าประเทศอื่นทำเรียกว่าเป็นการบุกรุก ส่วนการกล่าวหานี้หากเกิดผลกระทบต่อรัฐบาลไทยก็สามารถฟ้ององค์การสหประชาชาติ ( UN ) ได้
เมื่อถามว่า ผู้ที่ออกมาเผยแพร่จะทำให้เกิดความขัดแย้งไทยกัมพูชากันขึ้นหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า อาจจะเป็นเพราะเหตุผลดังกล่าวก็ได้ แต่อย่าไปเชื่อเพราะเป็นไปไม่ได้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
