ชทพ.จับตากกต.คดี 258 ล. ยึดเกณฑ์เดียวฟัน4พรรคหรือไม่ ปชป.อัดจาตุรนต์พูดแทรกแซงองค์กรอิสระ

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชทพ. แถลงเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมว่า ในรอบ1 ปีที่ผ่านมามักได้ยินเรื่องสองมาตรฐานมาตลอด กรณีการบังคับใช้กฎหมายและเชื่อว่าประชาชนจำนวนมากยังรู้สึกแบบนี้อยู่  โดยเฉพาะคดี 258 ล้านบาทที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหา หลายคนกำลังจับตาการพิจารณาของกกต.อยู่ โดยตนกำลังดูว่ากระบวนการพิจารณาในคดีดังกล่าว สามารถเทียบเคียงได้กับการยุบพรรคชาติไทยหรือไม่ เพราะพรรคชทพ.เข้าใจความลำบากใจของกกต. แต่ขอเรียกร้องให้กกต.เข้าใจถึงความรู้สึกของอดีตสมาชิกพรรคชาติไทยเดิมด้วย ที่ต้องการตัดสินใจเป็นธรรมยึดหลักความถูกต้อง ขอให้มีบรรทัดฐานการพิจารณา โดยดูจากคดีเก่า  ฉะนั้นสิ่งที่น่าจับตา คือ หากการตัดสินของกกต.ในคดี 258 ล้านบาท จะเป็นการตัดสินที่ใช้มาตรฐานยุบ 4 พรรคการเมืองเดิมหรือไม่

เมื่อถามว่า พรรคชทพ.เรียกร้องให้กกต.ยุบพรรคประชาธิปัตย์ตามมาตรฐานที่เคยยุบ 4 พรรคในอดีตใช่หรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า ตนแค่ขอให้นำไปศึกษาเทียบเคียงแนวทางการยุบพรรค 4 พรรคในอดีตนั้น กกต.ได้ผ่านขั้นตอนกระบวนการพิจารณาคดี 2358 ล้านบาทเหมือนแนวทางที่พรรคชาติไทยและพรรคอื่นเคยโดนยุบพรรคหรือไม่

"แม้กกต.จะกดดัน แต่กกต.ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน โดยกกต.ต้องชี้แจงได้ว่าไม่มีรายการคุณขอมา และต้องล้างข้อครหาเรื่องความสนิทกับนักการเมือง ที่ผมพูดไม่ได้มุ่งให้ล้มพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในฐานะที่พรรคชาติไทยเคยมีอายุน้อยก่วาพรรคประชาธิปัตย์ แต่ตอนนี้เรามีพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นสถาบันทางการเมืองพรรคเดียว ต้องดูว่าการพิจารณาของกกต.ได้ฉีกไลน์การพิจารณายุบ 4 พรรคการเมืองหรือไม่ เราสนใจแต่มาตรฐานการยุบพรรคตามเกณฑ์หรือไม่เท่านั้น หากผลออกมาไม่ตามเกณฑ์ กกต.ต้องชี้แจงให้ได้ แล้วทำไมถึงไม่ใช่มาตรฐานเช่นนี้กับพรรคชาติไทยและพรรคอื่น" นายวัชระ กล่าวและว่า  ขอเรียกร้องไปยังกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะใช้ความรุนแรง โดยการข่มขู่จะเผาบ้านประธานกกต.หรือสถานที่ราชการว่า ทางแกนนำต้องประเมินผลเสียด้วย ขอให้รอการตัดสินหรือท่าทีของกกต.ด้วยหลังจากนี้

ปชป.อัด"จาตุรนต์"พูดแทรกแซง กกต.ตัดสิน258ล. 

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ถึงกรณีการกดดันการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ออกมาระบุหากกกต.คนใดไม่ตัดสินให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นถอดถอนว่า พฤติกรรมและคำพูดดังกล่าวเป็นการแทรกแซงการใช้ดุลพินิจขององค์กรอิสระ ที่วินิจฉัยตามข้อมูลและหลักฐานที่เป็นจริง นายจาตุรนต์เป็นใคร จึงต้องการกดดันการวินิจฉัยขององค์กรที่ไม่ควรถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งทางการเมือง ส่วนที่แกนนำคนเสื้อแดงกลับลำ โดยอ้างคำพูดที่ว่า "จะบุกเผาบ้าน กกต." เป็นแค่สำนวนโวหารเท่านั้น ตนเห็นว่า แกนนำคนเสื้อแดงคงตระหนักดีว่า การแสดงเจตนาลอบวางเพลิง ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษรุนแรงมาก แต่การแสดงเจตนาในครั้งนี้ถือว่าไม่ได้เป็นแค่คำขู่ เพราะในอดีตเคยใช้เวที พยายามปุกระดมมาแล้ว

นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ส่วนการที่นปช.จะนัดชุมนุมในวันที่ 27-28 ธ.ค.นี้ พรรคเห็นด้วยกับฝ่ายความมั่นคงที่จะไม่ออก พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพราะเป็นช่วงเทศกาลแห่งความสุข ถือว่าฝ่ายความมั่นคงได้เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า เพียงพอที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น

ด้านนายเทพไท  เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการที่กลุ่มคนเสื้อแดงไปกดดันกกต.ว่า ได้ผลในระดับหนึ่ง เพราะสร้างความหวั่นไหวให้กกต.ได้พอสมควร เห็นจากท่าทีของนางสดศรี สัตยธรรม กกต. ที่ออกมาระบุว่า อาจตัดสินเหมือนนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ที่ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ หากเป็นเช่นนั้น อาจทำให้กลุ่มเสื้อแดงได้ใจและกดดันไปเรื่อยๆ ตนอยากให้การตัดสินใจยึดหลักกฎหมายและข้อเท็จจริง มากกว่าการกดดันด้วยมวลชน

"ส่วนที่นายจาตุรนต์ออกมาวิจารณ์ว่า กกต.ใช้ลูกไม้ตื้นๆ นั้น  นายจาตุรนต์คงไม่รู้ขั้นตอนของกฎหมาย หรือวิธีการพิจารณาของกกต. เพราะนายจาตุรนต์มีความรู้ด้านกฎหมายตื้นๆ ขอถามนายจาตุรนต์ว่า เคยดูสำนวนคดีนี้หรือไม่ ยืนยันได้ว่าในทุกสำนวนไม่มีส.ส.และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเกี่ยวข้อง มีเพียงญาติ ส.ส. 2- 3 คนเข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นการทำธุรกิจกับบริษัท พีทีไอเท่านั้น ที่ถือเป็นเรื่องธรรมดา" นายเทพไท กล่าว

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา กกต.ชุดนี้เคยให้ใบเหลืองและใบแดงพรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว แต่พรรคไม่เคยโอดครวญตามสัญชาติญาณเสือ ที่โดนเตะนิดเตะหน่อย ก็ไม่ร้อง แต่สัญชาติญาณอย่างอื่น อาจร้องครวญคราง

ปธ.กกต.ตั้งกุนซือดูข้อกม.คดี 258 ล. 
 

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. กล่าวเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ถึงการพิจารณาสำนวนเงิน 258 ล้านบาทที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหา อาจได้รับจากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ซึ่งขัดต่อพ.ร.บ.พรรคการเมืองที่อยู่ระหว่างการใช้ดุลพินิจของนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองว่า นายอภิชาตตั้งคณะทำงานขึ้นมา1 ชุด โดยมีผู้แทนจากด้านกิจการพรรคการเมือง และจากสำนักกฎหมายและคดี เพื่อดูข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง เพราะขณะที่ร้องนั้น เป็นการร้องในความผิดของกฎหมายพ.ร.บ.พรรคการเมือง 2541 แต่ปัจจุบันเป็นการใช้กฎหมายใหม่ปี 2550 จึงต้องดูอย่างรอบครอบและเรื่องนี้คณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน ก็ไม่ได้พิจารณามาให้ ทั้งนี้ การตั้งคณะทำงานขึ้นมาไม่ได้เป็นการยื้อเวลาอย่างที่บางฝ่ายกล่าวหา

"การทำงานของกกต.ที่ผ่านมา ใช้เวลากว่า 7 เดือน ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องผิดปกติ เพราะทุกอย่างมีขั้นตอน ส่วนที่ทุกคนเห็นว่าช้า เนื่องจากว่ากรณีดังกล่าวมีความซับซ้อน ทั้งประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับพ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวนมา และประเด็น พ.ร.บ.พรรคการเมืองที่ต้องดำเนินการ จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่นายทะเบียนพรรคการเมือง จึงต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาอีก1 ชุด เพื่อความรอบคอบ เนื่องจากฐานความผิดแตกต่างกัน" นายสุทธิพลกล่าว

นายสุทธิพล กล่าวว่า อีกทั้งขณะนี้เป็นการดำเนินการตามมติเสียงข้างมากที่ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองมาดำเนินการตามมาตรา 95 พ.ร.บ.พรรคการเมือง ซึ่งก็ต้องดูอีกครั้งหากมีข้อเท็จจริงใหม่ หรือนายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นว่า มีหลักฐานใหม่แล้วมีความชัดเจนการลงมติก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้  ซึ่งในอดีตเคยมีแต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นบ่อย เช่นเดียวกับหลายหน่วยงาน แต่ต้องดูตามเหตุผลที่สามารถต้องอธิบายได้ ซึ่งเชื่อว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงมติจริงๆ นายทะเบียนพรรคการเมืองก็จะต้องมีเหตุผลอธิบายต่อสังคมได้ ทั้งนี้ยอมรับว่าการทำงานของนายทะเบียนพรรคการเมือง และกกต. อยู่ภายใต้การกดดันของกระสังคม ซึ่งกกต.จะไปทำตามกระแสไม่ได้ เพราะจะเกิดผลกระทบ

เมื่อถามว่า กกต.ทำงานล่าช้าเพราะต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นเรื่องการยุบพรรค เพื่อช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ อย่างที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยคาดการณ์หรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า เป็นไปไมได้ เพราะขณะนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ และถ้าหากแก้ไขจริงก็ต้องใช้เวลาซึ่งการพิจารณาคดีดังกล่าวคงไม่ใช่เวลานานขนาดนั้น ขอย้ำว่ากกต.เป็นองค์กรตามรธน.ที่ทำงานด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม

เมื่อถามว่าผลการลงมติของกกต.ที่พิจารณาในเนื้อหาไปแล้ว2 คน มีผลผูกพันหรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของกกต.แต่ละคน เหมือนกับที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาที่มีคำพิพากษาไปแล้ว แต่หากต่อไปมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ศาลก็เคยมีการประชุมใหญ่เพื่อลงมติที่อาจจะมีความแตกต่างกันกับตอนแรกได้ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง

"สดศรี"พูดเป็นนัยอาจยุบปชป.

 นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ไม่ว่านายทะเบียนพรรคการเมืองจะมีความเห็นในคดีเงิน 258 ล้านบาท โดยให้ยุบ ปชป. หรือให้ยกคำร้อง ก็ต้องนำเข้าที่ประชุม กกต.เพื่อแจ้งให้ที่ประชุมทราบ เพราะการพิจารณาของ กกต.อยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุม หากนายทะเบียนพรรคการเมืองมีความเห็นว่าให้ยกคำร้อง ตนอาจลงมติเหมือนนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม ที่มีมติให้ยุบ ปชป.ก็เป็นได้

 ส่วนที่ พท. และกลุ่มคนเสื้อแดงจะยื่นถอดถอน กกต.นั้น นางสดศรี กล่าวว่า "ขอให้ยื่นถอดถอนได้เลย จะได้ให้ กกต.ชุดใหม่เข้ามาทำงานแทน เพราะยอมรับว่าขณะนี้เหนื่อยแล้ว อยากพักผ่อน แต่ทั้งนี้ ขอให้ พท.รอดูก่อนว่าการพิจารณาของ กกต.จะออกมาอย่างไร ยืนยันว่าการพิจารณาของ กกต. ไม่มีใบสั่งแต่อย่างใด"

 "ตอนนี้ กกต. เสมือนเป็นจำเลย และรู้สึกสงสารประธาน กกต. เพราะถูกกดดันมากจากรอบด้าน ดังนั้น คิดว่าถ้าไปกดดันมากสักวันท่านอาจจะต้องสู้เหมือนกัน หากยิ่งผลักดันมากความเห็นที่ออกมาอาจจะเหมือนเดิม"นางสดศรี กล่าว 

ผบช.น.เชื่อเผาบ้านแค่คำขู่

 พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) กล่าวว่า ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยของ 5 กกต.แล้ว ส่วนกรณีคนเสื้อแดงขู่บุกเผาบ้านนั้น มองว่า คงเป็นแค่ขู่ กฎหมายบ้านเมืองมีอยู่ ถ้าเผาบ้านเมื่อใด ติดคุกเมื่อนั้น คงไม่มี เชื่อว่าพี่น้องคนไทยด้วยกันคงไม่รุนแรง

 เมื่อถามถึงข้อเสนอให้ถอนประกันตัวนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง และนายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า คดีของทั้งสองอยู่ในชั้นอัยการ โดยนายอริสมันต์ มีคดีอยู่ในศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี จึงผ่านกระบวนการของตำรวจไปแล้ว ทั้งนี้ พล.ต.ท.สัณฐาน มอบหมายให้ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พิจารณาว่า พฤติกรรมของนายอริสมันต์ และนายสุพร เข้าข่ายผิดเงื่อนไขการให้ประกันในชั้นพนักงานอัยการหรือไม่ หากตรวจสอบพบก็จะส่งเอกสารหลักฐานทั้งหมดให้พนักงานอัยการพิจารณาดำเนินการ

  นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวถึงการถอนประกันแกนนำเสื้อแดง ว่า จะต้องพิจารณาเป็นคดีๆไปว่า คดีใดมีการทำสัญญาประกันตัวไว้หรือไม่ ซึ่งอัยการไม่มีอำนาจเรียกให้ผู้ต้องหามาพบเพื่อวางกำหนดเงื่อนไขประกันตัวได้ จนกว่าจะถึงวันที่นัดให้ผู้ต้องหามารายงานตัว แต่หากถึงกำหนดนัด ผู้ต้องหายังคงมีพฤติการณ์ทำผิดเหมือนกับคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ก็อาจวางกำหนดเงื่อนไขประกันตัวได้

ขอกำลังตำรวจคุ้มกัน5กกต.

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัย 5 กกต. หลังกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมหน้าสำนักงาน กกต.เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา เรียกร้องให้ กกต.ออกมาชี้แจงเรื่องการพิจารณาคดีเงิน 258 ล้านบาท ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ถูกกล่าวหาว่ารับจากบริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผ่านบริษัทเมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด และประกาศจะบุกไปเผาบ้านพัก กกต.

 ทั้งนี้ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ว่าได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้รักษาความปลอดภัยแก่  5 กกต. โดยให้ช่วยรักษาความปลอดภัยในช่วงนี้ที่ทางกลุ่มคนเสื้อแดงขู่ว่าจะบุกไปเผาบ้าน ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรง ส่วนจะมีเรื่องที่จะเข้าข่ายละเมิดกฎหมายหรือไม่นั้น สำนักงาน กกต.ได้ประเมินสถานการณ์กับทางตำรวจแล้วได้ข้อสรุปว่า จะมีการดำเนินการเตรียมการต่อไป

 ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองมีความกดดันหรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า กกต.ทุกคนไม่สบายใจที่มีการชุมนุมมาเผาโลงศพ ปัสสาวะรด ทางสำนักงาน กกต.ก็ไม่สบายใจ ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับประชาชนที่ยังเข้าใจคลาดเคลื่อน