มหาดไทยประกาศ กวาดล้างใหญ่ยาเสพติดภาคใต้ นำร่องสงขลา ไร้หลักฐานยึดทรัพย์ไว้ก่อน

มหาดไทยประกาศ กวาดล้างใหญ่ยาเสพติดภาคใต้ นำร่องสงขลา ไร้หลักฐานยึดทรัพย์ไว้ก่อน

ถาวร ประกาศกวาดล้างยาเสพติดภาคใต้ครั้งใหญ่ ประเดิมสงขลา หรือทางลับทุกหมู่บ้าน หาตัวคนเสพ คนค้า ไม่มีหลักฐานยึดทรัพย์ไว้ก่อน เผยแผนปฏิบัติไทยเข้มแข็ง เล็งลดปัญหาพื้นที่ ภาคเหนือ กทม.-ปริมณฑลและใต้

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ระยะที่ 2 "คลีน แอนด์ซีล"  ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ว่าการดำเนินการใน 14 จังหวัดภาคใต้ที่ตนรับผิดชอบดูแล จะเริ่มการทำประชาคมในทางลับในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ โดยจะเริ่มต้นที่ จ.สงขลา พร้อมกันทั้งหมด 1,300 หมู่บ้าน เพื่อรู้ผู้เสพ ใครเป็นผู้เสพเอาไปบำบัด ไม่สมัครใจบังคับ เพื่อรู้ผู้ขาย เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายจับกุมปิดล้อม ไม่มีพยานหลักฐานใช้มาตรการยึดทรัพย์ และจากนั้นจะดำเนินการอีก 13 จังหวัดที่เหลือไปพร้อมๆกัน

 นายถาวร กล่าวว่า คาดว่าจากการที่เข้มข้นกวดขันยาเสพติด โดยใช้มาตรการยึดทรัพย์ จะทำให้ยาเสพติดลดลง ทั้งนี้ได้ขอความร่วมมือกับพนักงานอัยการเมื่อพนักงานสอบสวน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จะปิดล้อมกวาดล้างจับกุมต้องทำเต็มที่ คิดว่าปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับยาเสพติดจะต้องลดให้ได้

 "ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืนนี้ มีเป้าหมายเพื่อลดระดับปัญหาใน 3 กลุ่มพื้นที่ ได้แก่ กลุ่มพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน กลุ่มพื้นที่ กทม.และปริมณทล และกลุ่มพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  และ 3 ระบบปฏิบัติการ ได้แก่ ระบบนำผู้เสพเข้าบำบัดรักษาด้วยกระบวนการชุมชน ประชาสังคม และมาตรการสมัครใจ ระบบการบังคับบำบัด และระบบการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือนจำ"

  นายถาวร กล่าวว่า เพื่อให้แผนปฏิบัติการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้กำหนดเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดในเชิงรุก โดยใช้เครื่องตรวจหาสารเสพติดมาสนับสนุนการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้สนับสนุนเครื่องตรวจหาสารเสพติดให้แก่จังหวัดและอำเภอเพื่อให้แผนปฏิบัติการคลีน แอนด์ซีล ตรวจหาสารเสพติดในหมู่บ้าน ชุมชน รวมทั้งให้นำเครื่องตรวจหาสารเสพติดนี้ไปใช้ในการตั้งด่านตรวจเส้นทางเข้าออก ของหมู่บ้านทุกเส้นทาง เพื่อไม่ให้ยาเสพติดเล็ดลอดเข้ามาได้อีก

 นายถาวร กล่าวว่า สำหรับมาตรการรองรับผู้เสพ ซึ่งได้จากการคลีนอัพพื้นที่โดยการใช้ประชาคมในทางลับ กระทรวงมหาดไทยได้ตระหนักถึงจำนวนผู้เสพยา ที่จะต้องรับการบำบัดควบคู่ไปกับการฝึกอาชีพ เพื่อให้สามารถกลับคืนสู่สังคมและดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุขตามสมควร ดังนั้นกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองจึงได้สนับสนุนให้กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเป็นสถานที่บำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด ทั้งนี้ในระบบบังคับบำบัดตามพ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพติดยาเสพติดพ.ศ. 2545 และในระบบสมัครใจ โดยในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้มีกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดกระบี่ ตรัง นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา ระนอง และสงขลา

 นายถาวร กล่าวว่า สำหรับผลการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2552 มีการจับกุมยาเสพติด 22,209 คดี มีผู้ต้องหา 28,209 คน และมีผู้ได้รับการบำบัด 9,220 คน พื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดยาเสพติดมาก ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สงขลา นราธิวาส และปัตตานี โดยยาเสพติดหลักที่มีการแพร่ระบาดคือ ยาบ้า กระท่อม และกัญชาแห้ง