อินโดนีเซียหนุนแนวทางแก้ปัญหาชายแดนใต้

         วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึง การแสดงความห่วงใยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ของประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ว่า ในการเดินทางไปประเทศอินโดนีเซียระหว่างวันที่ 23-24 ธ.ค.นั้น ได้หารือกับประธานาธิบดีอินโดนีเซียเรื่องปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ประธานาธิบดีอินโดนีเซียในฐานะที่เป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากร 240 ล้านคน ร้อยละ 90 เป็นคนมุสลิม ประธานาธิบดีก็ย่อมมีความเป็นห่วงกังวลใจเกี่ยวกับชาวมุสลิมที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นผู้ร่วมศาสนาเดียวกัน ตนได้แจ้งให้ทราบว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ได้กำหนดนโยบายชัดเจนว่า การแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จะต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย

       โดยได้แจ้งกับประธานาธิบดีอินโดนีเซียว่า รัฐบาลไทยได้ทุ่มเงินงบประมาณถึง 6.4 หมื่นล้านบาท พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ที่ส่งไปประจำอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ส่งไปเพื่อคุ้มครองให้ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน เพื่อดูแลสถานการณ์เท่านั้น และตนได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ฟัง ซึ่งประธานาธิบดีอินโดนีเซียก็บอกว่า ได้คอยติดตามเหตุการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยอยู่ตลอดเวลา และเข้าใจดี เพราะอินโดนีเซียเคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ ประเทศอินโดนีเซียเอาใจช่วยรัฐบาลไทยทุกอย่าง และพร้อมที่จะสนับสนุนแนวทางในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไทย และให้คำรับรองว่า เท่าที่มีประสบการณ์ และศึกษาติดตามการแก้ไขปัญหาของนายอภิสิทธิ์ เกี่ยวกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ถือว่า รัฐบาลไทยทำถูกต้องแล้ว.