ไฟเขียวรับฟังความเห็นผลกระทบมาบตาพุด


กำหนดอีไอเอ-เอชไอเอ-กระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากปชช. ตาม รธน.ปี50ใหม่ นายกฯ มั่นใจมีผลก่อนสิ้นปี


        ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่  24 ธ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ ระเบียบปฏิบัติและแนวทางในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ และสุขภาพ หรือเอชไอเอ สำหรับโครงการที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง รวมถึงกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยจะประกาศใช้ก่อนสิ้นปี 52 นี้ ซึ่งส่งผลให้โครงการลงทุนทั้งหมดสามารถเข้าสู่กระบวนการจัดทำอีไอเอ เอชไอเอ และการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ตามรัฐธรรมนูญได้ทันที

        ส่วนการจัดตั้งองค์กรอิสระ ทางคณะกรรมการ 4 ฝ่ายเพื่อแก้ไขปัญหามาบตาพุดยังมีความเห็นไม่ลงตัว ซึ่งจะกลับไปทบทวนว่าจะทำให้รูปแบบใดและจะทำอย่างไร เพื่อให้สอดรับกับกระบวนการอีไอเอและเอชไอเอ เพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ โดยผลการประชุมครั้งนี้จะเสนอให้ ครม.รับทราบเพื่อถือเป็นมติ ตั้งเป้าหมายให้มีลงนามในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้ดำเนินการได้ก่อนสิ้นปี 52  ซึ่งตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะทำให้ได้ก่อนสิ้นปี อย่างไรก็ตาม เมื่อนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงนามในประกาศฉบับนี้เรียบร้อยแล้ว จะเชิญผู้ประกอบการมาหารือเพื่อชี้แจงในรายละเอียดอีกครั้ง เชื่อว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้น

        นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เชื่อว่าจะมีโครงการลงทุนอีก 5-6 โครงการ ที่ศาลปกครองสูงสุดจะสั่งเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เช่นเดียวกับกรณีของบริษัท เหล็กสยามยามาโตะ โดยเข้าใจว่าได้รับใบอนุญาตก่อนรัฐธรรมนูญปี 50 มีผลบังคับใช้ และเชื่อมั่นว่าหากเอกชนมีความพร้อมด้านข้อมูลเพียงพอที่จะขอให้ศาลพิจารณาเพิ่มเติม ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นเดียวกัน เพราะมีหลักคิดเช่นเดียวกับ 11 โครงการแรกที่ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองเช่นกัน


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์