ปชป.จวกทักษิณ-เครือข่ายคุกคามองค์กรอิสระ-สถาบัน

โฆษกปชป. จวก"ทักษิณ-เครือข่าย"ไม่ควรคุกคามองค์กรอิสระ-สถาบัน หวั่นเหตุขัดแย้งรอบใหม่ ซัดข้อเสนอ "ภูมิธรรม"คนละบริบทปัจจุบัน ชี้ ทำให้สังคมอยู่ในสภาพหวาดกลัว

ที่รัฐสภา นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ส.ส.สัดส่วน โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมว่า

พรรคปชป.ห่วงใยกรณีที่เครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนปช. คุกคามสถาบันที่อยู่นอกความขัดแย้งทางการเมือง ตั้งแต่ การดึงสถาบันองคมนตรีจะให้มาเป็นคนกลางเจรจาความขัดแย้ง เพราะสถาบันองคมนตรีรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ต่อมา มีพฤติกรรมคุกคามองค์กรอิสระ เช่น ปัสสาวะในที่สาธารณะรดโรงศพ ข่มขู่เผาบ้านกกต. ถือว่า เป็นพฤติกรรมเดียวกับการก่อจลาจลเดือนเมษายนที่ผ่านมา และยังมีคำขู่ ของประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่บอกว่า หากกกต.ไม่วินิจฉัยคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ ตามความต้องการของตนเอง จะอยู่ไม่เป็นสุข ทั้งหมดสอดรับกัน และเป็นสัญญาณชัดเจนในการคุกคามการทำงานองค์กรอิสระ เหมือนในอดีตที่คุกคาม ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ สตง. จึงอยากให้รัฐบาลเร่งดูแลความปลอดภัย อีกทั้งล่าสุด นปช.จะชุมนุมใหญ่วันที่ 27 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงฉลองเทศกาลปีใหม่ ทุกฝ่ายในสังคมจึงต้องช่วยกันเฝ้าระวังไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
 

"ที่พ.ต.ท.ทักษิณ และนปช. เคลื่อนไหวให้กกต.วินิจฉัยคดี 258 ล้านบาท ตามความต้องการของตัวเองมากกว่าข้อเท็จจริง จะทำให้ความขัดแย้งในสังคมไม่จบสิ้น และจะทำให้พ.ตงท.ทักษิณ กลับประเทศไทยยากยิ่งขึ้น พรรควิเคราะห์ปัญหา เห็นว่า สาเหตุหลักคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการคืนสู่อำนาจ ไม่ต้องการรับโทษ ไม่ต้องการโดนยึดทรัพย์สิน ซึ่งถือว่า ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย และยังมีการปลุกระดม ด้วยการบิดเบือนความจริงตั้งแต่ เอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศ และคำวินิฉัยของกกต. ซึ่งอาจเป็นเงื่อนไขความขัดแย้งครั้งใหม่ จึงขอเรียกร้องผู้ที่จะก่อความขัดแย้งรุนแรง ขอให้นึกถึงชาติบ้านเมือง เพราะที่ผ่านมาเจอวิกฤตมากแล้ว ต้องช่วยกันนำความสงบกลับมาสู่บ้านเมือง" นพ.บุรณัชย์ กล่าว

นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า กรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ขอให้รัฐบาลริเริ่มการเจรจาโดยยกคำสั่ง 66/2523 มาเปรียบเทียบ

กรณีนี้จะนำมาเปรียบเทียบไม่ได้ เพราะกลุ่มที่ต่อต้าน มีกระบวนการเคลื่อนไหวที่มีอุดมการณ์ต่างกัน และยังมีพฤติกรรมรุนแรงข่มขู่ ว่า หากไม่ยุบสภา จะเกิดความรุนแรง ซึ่งทำให้สังคมตกในความหวาดกลัว ไม่ต่างกับพฤติกรรมก่อการร้าย ทั้งที่กระบวนการสมานฉันท์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯเป็นผู้ริเริ่มให้ตัวแทนทุกฝ่าย มาหารือในสภา และทำประชามติการแก้รัฐธรรมนูญ แต่เสียดายที่พรรคเพื่อไทย ถอนตัวเองเมื่อได้รับคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้ต่อมามีการเคลื่อนไหวดึงต่างชาติเข้ามาทำให้เกิดความขัดแย้ง จากนั้นยังคุกคามองค์กรอิสระ ทั้งที่นายกฯ ไม่เคยทำตัวเป็นสาเหตุของปัญหา และไม่เคยแบ่งแยกคนไทย