เผยคุมเข้ม 5 เสือ กกต.กันแดงป่วนเผาบ้าน


วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึง กรณีกลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมที่สำนักงาน กกต. 

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ กกต.ชี้แจงกรณียังไม่สามารถชี้ขาดในสำนวนเงิน 258 ล้านบาท ที่พรรคประชาธิปัตย์อาจได้รับจาก บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ที่อาจขัดต่อ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ว่า จากเหตุการณ์เมื่อวาน ทางสำนักงานได้มีการประสานงานกับทางตำรวจแล้ว ที่ให้ความร่วมมือในการรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ การชุมนุมโดยสงบสามารถทำได้ไม่มีปัญหา หากชุมนุมโดยสงบตามสิทธิ และเสรีภาพของรัฐธรรมนูญ แต่ก็เป็นห่วงความรุนแรงที่เกิดขึ้น เพราะที่สำนักงาน กกต.เป็นอาคารของศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ซึ่งมีหน่วยราชการอื่นอยู่มาก ดังนั้น หากเกิดความรุนแรงก็จะไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย ทางตำรวจก็จำเป็นที่ต้องดูแลความปลอดภัย และทางสำนักงาน กกต.ก็ขอขอบคุณกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่คอยรักษาความปลอดภัยให้ผ่านพ้นไปด้วยดี และในอนาคตหากเหตุการณ์รุนแรงอีก ทางศูนย์ราชการฯ ก็ยังมีทหารจากกองทัพไทย ที่จะขอความร่วมมือไปได้ หากตำรวจรับมือไม่ไหว

การรักษาความปลอดภัยของบ้าน นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง และ กกต.อีก 4 ท่าน ก็ได้ประสานกับทางตำรวจแล้ว เพื่อให้รักษาความปลอดภัยแก่ 5 กกต. โดยจะให้ช่วยรักษาความปลอดภัยในช่วงนี้ ที่ทางกลุ่มคนเสื้อแดงขู่ว่า จะบุกไปเผาบ้าน กกต. ซึ่งต้องยอมรับว่า เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรง และเข้าข่ายละเมิดกฎหมายหรือไม่ โดยสำนักงาน กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะหลังจากมีการสลายการชุมนุม ทางสำนักงานฯ ก็ได้มีการประเมินสถานการณ์กับทางตำรวจก็ได้ข้อสรุปว่า จะมีการดำเนินการเตรียมการต่อไป ส่วนจะมีการดำเนินการกับกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ ก็ต้องตรวจสอบก่อน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้อัดภาพ และเสียงไว้แล้ว


นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า ตนหนักใจในเรื่องความเข้าใจคลาดเคลื่อนของข้อมูลมากกว่า ซึ่งจากที่ได้อ่านจากหนังสือพิมพ์พบว่า มีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไปในแนวทางที่ประชุม กกต.ได้มีมติเสียงข้างมาก ให้ส่งสำนวนไปศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตนขอชี้แจงว่า วันที่ประชุม กกต.มติเสียงข้างมากนั้น ยังไม่ได้วินิจฉัย หรือมีมติในเนื้อหา แต่เสียงข้างมากเห็นว่า ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองดำเนินการตามมาตรา 95 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองก่อน ดังนั้น ที่มีข่าวว่า เสียงข้างมาก 4 ต่อ 1 ให้ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ ก็เป็นความคลาดเคลื่อนว่า มีการลงมติในเนื้อหา แต่จริง ๆ ไม่ใช่ เพราะเรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะยังอยู่ที่ดุลพินิจของนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่จะต้องทำความเห็นมาก่อน ต้องขอให้โอกาสการทำงานกับประธาน กกต. และ กกต.ด้วย ทั้งนี้ ที่มีการนำกลับมาพิจารณาของนายทะเบียนพรรคการเมืองนั้น ก็เป็นเรื่องที่ดีที่จะต้องศึกษาให้ละเอียดรอบคอบ เพราะเป็นเรื่องของความเป็นธรรม ซึ่งการพิจารณาของ กกต.นั้น จะต้องใช้ความเป็นกลางในการพิจารณากับทุกสำนวนที่ร้องเข้ามา.

 

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์