เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 25 ธ.ค. ที่โรงแรมดิเอ็มเมอรัลด์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดการเสวนาและปาฐกถาพิเศษ ระดมความเห็นเขตการค้าเสรีอาเซียนไทย พร้อมหรือยัง โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่ง ว่า การเปิดการค้าเสรีได้ดำเนินการมา 17 ปีแล้ว และมีการลดภาษีระหว่างกันมาโดยตลอด แต่ในปีหน้า (2553) ก็จะมีการลดภาษีให้เป็นศูนย์ ใน 6 ประเทศอาเซียนที่เป็นคู่ค้าของประเทศไทยในลำดับต้น ๆ ทั้งนี้ มั่นใจว่าการเปิดการค้าเสรีจะทำให้ไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาไทยได้ดุลการค้าจากอาเซียนถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐ อีกทั้ง การจัดทำเขตการค้าเสรีอาเซียน ยังจะเกิดประโยชน์กับผู้บริโภคด้วย ในส่วนข้อห่วงใยในสินค้าการเกษตรที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ทั้ง 3 สาขา อาทิ การเพาะพันธุ์พืช ป่าปลูก และสัตว์น้ำ นั้นก็ได้ขอให้มีการทบทวนมติ เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการเปิดการค้าเสรีมีผลกระทบทั้งบวกและลบ แต่มั่นใจว่าจะเป็นบวกมากกว่า หากมีการบริหารจัดการได้ดี ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและจะติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป รวมทั้งรัฐบาลจะตั้งกฎกติกาเพื่อให้เกิดความง่ายในการปรับตัวของภาคเอกชน
นายกรัฐมนตรี กล่าว
“การเปิดการค้าเสรีแม้จะมีทั้งบวกและลบ แต่ในข้อเท็จจริงก็จะทำให้ไทยเดินหน้าไปสู่ประชาคมอาเซียนซึ่งจะมีประโยชน์ทั้งกับคนไทย เศรษฐกิจและภาพรวม และในอนาคตการค้าเสรีก็คงไม่ได้แค่อยู่ในกรอบแค่ 10 ประเทศแน่นอน”
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
