"อภิสิทธิ์" ยืนยันไม่มีแผนลอบสังหาร "ทักษิณ" ปชป.จวก"จตุพร" จารกรรม-ทรยศชาติ" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบเทเลพรีเซนส์จากกรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก วันที่ 19 ธันวาคมถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นำเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศเรื่องแนวทางการดำเนินการกับความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โดยอ้างว่าเป็นแผนลอบฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเผยแพร่ ตรงไหนที่เขียนถึงแผนลอบฆ่า (พ.ต.ท.ทักษิณ) มีอยู่ตรงไหน ไม่มีเรื่องใดที่รัฐบาลจะไปทำผิดกฎหมาย และเราทำทุกอย่างตามกระบวนการตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้สนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และการที่เราเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเหมือนกับคนอื่น ผมคิดว่าคนที่เอาเอกสารไปนั้นไม่ทราบว่าอ่านถูกต้องหรือแตกฉานแค่ไหน หรือใช้กรอบความคิดที่เขาคิดกับรัฐบาลปัจจุบันหรือไม่ จึงตีความเกินเลยจากข้อเท็จจริง
อภิสิทธิ์เปิดปากจากเดนมาร์กยืนยันไม่มีแผนสอบฆ่าแม้วอย่างที่จตุพรนำเอกสารลับมาเปิดเผย ปชป.ประณามพฤติกรรม"ตู่"บิดเบือนข้อเท็จจริงทำเขมรรู้จุดยืนไทยเปรียบเสมือนจารกรรมและทรยศชาติ
โดยข้อเท็จจริงไม่ว่ารายงานจะขึ้นมาอย่างไร แนวปฏิบัติของรัฐบาลและนโยบายที่ผมมอบลงไปและที่ทุกกระทรวงนำไปปฏิบัติ คือการใช้ทุกอย่างภายใต้กระบวนของกฎหมาย และเราหลีกเลี่ยงเรื่องความรุนแรง เรื่องการกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะถ้าเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งได้ใช้ความอดทนอดกลั้นมาตลอด
"ผมอยากเรียกร้องว่า ใครอยากจะเล่นการเมืองอย่างไร ขอให้อยู่ในขอบเขต อย่าเอาประโยชน์ของชาติมาทำให้เกิดปัญหา อย่าเอาประเทศเพื่อนบ้านมาเป็นตัวสร้างให้เกิดปัญหามากขึ้น เพราะมันไม่เป็นประโยชน์กับคนไทยและส่วนรวม อย่าเอาผลประโยชน์ของคนคนเดียวมาอยู่เหนือเรื่องอื่นเลยทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย การที่นักการเมืองนำเอกสารของทางราชการมาเปิดเผยนั้นต้องให้ประชาชนตัดสินว่าสิ่งที่ทำทั้งหมดเพื่อประโยชน์ของใคร และรัฐบาลต้องการรักษาศักด์ศรีและปกป้องผลประโยชน์ของคนไทย โดยให้กระทบกับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านน้อยที่สุด ถ้าเราทำอย่างนี้ บ้านเมืองจะเดินไปข้างหน้าและสงบได้"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สังคมไทยทุกสมัย เรื่องของความลับทางราชการหรือเอกสารราชการที่รั่วไหลออกไปเกิดขึ้นทุกยุค สมัยที่ผมเป็นฝ่ายค้านก็ได้รับเอกสาร แต่พวกผมใช้ด้วยความรับผิดชอบ นายจตุพรทำอย่างนี้ ก็ต้องไปถามว่าทำไม ผมไม่สามารถตอบแทนนายจตุพรได้ จะเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีในช่วงหลังปีใหม่หรือไม่ ต้องไปถามนายจตุพร รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย และรักษาผลประโยชน์ของประเทศ
ทางด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวถือเป็นเอกสารชั้นความลับของราชการ เพราะเกี่ยวกับผลประโยชน์และอธิปไตยของประเทศ พรรคขอประณามพฤติกรรมของนายจตุพร ที่จงใจเปิดเผยและยังบิดเบือนสาระสำคัญของเอกสาร ทำให้สังคมเข้าใจผิด และยังทำให้กัมพูชารู้จุดยืนของไทยในการปกป้องอธิปไตย
นายจตุพรโกหกซ้ำซาก บิดเบือนเนื้อหาในเอกสาร 3 เรื่อง คือ 1.การระบุว่ามีการวางแผนเอาชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ ภายในกรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งข้อเท็จจริงในเอกสาร ไม่มีการเตรียมการกระทำทุกรูปแบบ แต่นายจตุพรพูดขึ้นมาเหมือนกับที่สมเด็จฯฮุน เซน นายกฯกัมพูชาให้สัมภาษณ์ และที่ พ.ต.ท.ทักษิณทวิตเตอร์ทุกประการ เพื่อหวังปลุกระดมสร้างความรนุแรง
2.บิดเบือนเรื่องรัฐบาลเตรียมประกาศสงครามกับกัมพูชา ซึ่งข้อเท็จจริงในเอกสารระบุว่า มุ่งปรับความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ไปสู่ระดับปกติ และไม่ได้ระบุถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองของมิตรประเทศ มีเพียงหากสถานการณ์ถึงระดับเลวร้ายที่สุดจนเกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชนในวงกว้าง ละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดน คุกคามอำนาจอธิปไตยเช่นกรณีเดือนเมษายน หรือพรมแดน จึงพูดถึงการพิจารณาการใช้มาตรการทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตย
3.บิดเบือนว่า กระบวนการยุติธรรมไทยถูกแทรกแซงและพยายามโยงถึงผู้มีบารมีนอกรัฐบาล ซึ่งพรรคยืนยันว่า ไม่มีฝ่ายใดแทรกแซงคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เยี่ยงคดีที่ดินรัชดาฯที่มีการติดสินบนศาล
ถ้าดูอย่างละเอียดจะเห็นว่า เอกสารดังกล่าวเสนอข้อ 2.4 ยังเสนอให้ดำเนินการด้วยความสุขุม ไม่วู่วาม และให้สร้างความเข้าใจกับประชาชน มากกว่าความสะใจและยังยืนยันความเที่ยงตรงของกระบวนการยุติธรรม เนื้อหาทั้งหมดในเอกสารแสดงจุดยืนของชาติที่ปฏิบัติตามหลักสากล มีบรรทัดฐานสูง ไม่ได้มีถ้อยความใดที่มุ่งสร้างสถานการณ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่เหมือนกับพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายจตุพร และพวก ที่ยืมมือเพื่อนบ้านสร้างสถานการณ์ มีการโกหกซ้ำซาก เอาข้อมูลประเทศตนเองให้ชาติอื่น ยุยงให้เกิดสงครามประชาชนในประเทศ ถามว่า พฤติกรรมแบบนี้ต่างกับพฤติกรรมของคนทรยศชาติหรือไม่
พรรคขอเรียกร้องให้หยุดเอาความมั่นคงของชาติมาเป็นเครื่องมือ การที่ข้อมูลลับรั่วไหล โดยมีคนในเอาออกมา ไม่ต่างจากนิยามคำว่า "จารกรรม" เช่นเดียวกับการดักฟังโทรศัพท์ ฉะนั้นต้องดำเนินการตามกฎหมาย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
