ชี้เท่ากับประกาศสงครามกลุ่มประเทศก่อการร้าย โดยเอาประเทศ-ความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์เป็นตัวประกัน
วันนี้(18ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. แถลงถึงกรณีการจับกุมชาวต่างชาติ 5 รายที่ลอบขนอาวุธสงครามร้ายแรงผ่านทางเครื่องบินลำเลียงพร้อมกับมีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกับนายวิคเตอร์ บู๊ท พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซียซึ่งถุกคุมขังในเรือนจำของประเทศไทย ว่า จากข้อมูลที่ได้รับทราบขณะนี้คือเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเครื่องบินลำดังกล่าวเคยผ่านน่านฟ้าประเทศไทยหลายครั้ง จากนั้นทางสหรัฐอเมริกาได้แจ้งแก่รัฐบาลไทย โดยมีสองแนวทางให้เลือกคือ 1.จับกุม และ 2.ไม่อนุญาตให้เครื่องบินลำดังกล่าวบินผ่านน่านฟ้าประเทศไทย แต่รัฐบาลไทยได้แสดงความโง่เขลา โดยเลือกแนวทางที่ 1 คืออนุญาติให้จอดแวะเติมน้ำมันและเข้าทำการจับกุม ซึ่งเท่ากับรัฐบาลไทยเพาะศัตรู ประกาศตัวเป็นฝ่ายปฏิปักษ์กับเกาหลีเหนือและกลุ่มประเทศผู้ก่อการร้าย โดยเอาประเทศและความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์เป็นตัวประกัน
นายจตุพร กล่าวว่า ที่พูดเช่นนี้ ไม่ใช่ตนไม่เห็นด้วยกับการจับกุม แต่รัฐบาลไทยควรเลือกหนทางอื่น อย่างมีสติหากเลือกไม่ให้เครื่องบินนี้ผ่านน่านฟ้าไทยก็จบ ไม่ต้องเอาประเทศไปเสี่ยง การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงบอกว่าไม่กลัวผลกระทบที่จะตามมานั้น พอถึงเวลานายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีก็มุดหัวอยู่ในรถกันกระสุน แต่เคยได้คิดถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์บ้างหรือไม่ เพราะสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจแท้ๆ ยังไม่สามารถปกป้องตัวเองจากผู้ก่อการร้ายได้ แล้วประเทศไทยจะรับมือได้อย่างไร เพราะแค่ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังรับมือไม่ได้.