เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 17 ธันวาคม ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางเข้าร่วมประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาเรื่องมาบตาพุด ว่า ในเรื่องของกติกาที่จะเดินร่วมกัน ขณะนี้ก็ต้องรอฟังจากกรรมการ 4 ฝ่ายอีกครั้ง แต่น่าจะมีระเบียบที่ทำให้ทุกโครงการที่ต้องการจะเดินตามกฎหมายมาตรา 67 วรรคสอง เดินได้ โดยมีระเบียบให้ทันภายในสิ้นปี 2552 หรือสองสัปดาห์ข้างหน้านี้ ในส่วนของการสำรวจโครงการข้อเท็จจริงที่พบคือมีอยู่ประมาณ 10 โครงการ ที่ยังไม่ขออนุญาตหรือมีสถานะที่ชัดเจน และอีกประมาณ 20 โครงการ อยู่ระหว่างการขออนุญาต ซึ่งตนถือว่าโครงการเหล่านี้ก็ต้องรอเข้าโครงการ ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานขึ้นเพียงเล็กน้อย
"ตัวที่เราเป็นห่วง คือตัวที่มีการประกอบการไปแล้ว หรืออยู่ระหว่างการก่อสร้าง ก็กำลังให้ดูว่าเมื่อถูกระงับผลกระทบจะเป็นอย่างไร ในส่วนของข้อเท็จจริงบางอย่างที่อาจนำไปสู่การพิจารณาของศาลที่จะให้ความกระจ่างว่าจะปฏิบัติอย่างไร " นายอภิสิทธิ์กล่าว และว่า ถ้าเราไม่สามารถทำให้เกิดความมั่นใจ และความไว้ใจระหว่างประชาชนกับอุตสาหกรรมมาบตาพุด เราต้องพยายามพลิกปัญหาที่เกิดขึ้นตรงนี้เป็นการก้าวเดินไปอย่างมั่นคง และมีการปรับโครงสร้าง วิธีคิด ทัศนคติ
เมื่อถามว่า มูลค่าความเสียหายสูงถึง 2.5 แสนล้านบาทตามที่มีการวิเคราะห์กันจริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีตัวเลขที่ตรงกันชัดเจน ก็แปลกใจว่าบางครั้งเรากำลังเร่งสำรวจ กลับกลายเป็นว่าเอกชนก็ไม่ได้แจ้งมาอย่างชัดเจนว่า สถานะต่างๆอยู่ที่ไหนอย่างไร อย่างไรก็ตาม ตนพูดไปชัดเจนแล้วกับทุกฝ่ายว่า ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาเล่นแง่ ควรมาแก้ไขปัญหากันมากกว่า
มาร์คยังหวังพลิกวิกฤตมาบตาพุดเป็นโอกาส ชี้ระเบียบเสร็จทันสิ้นปี 2552
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง มาร์คยังหวังพลิกวิกฤตมาบตาพุดเป็นโอกาส ชี้ระเบียบเสร็จทันสิ้นปี 2552