กษิตออกแถลงการณ์ยินดีศิวรักษ์ได้อิสรภาพ

'กษิต' ออกแถลงการณ์ยัน กต.ทำทุกทางช่วยวิศวกรไทยเต็มที่  ชี้ 'ศิวรักษ์-คำรบ' ตกเป็นเหยื่อ

        วันนี้(16 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ถูกทางการกัมพูชาจับกุมและดำเนินคดี และต่อมาได้รับพระราชทานอภัยโทษจากพระมหากษัตริย์กัมพูชา และได้เดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. โดยมีเนื้อหาใจความแสดงความยินดีกับนายศิวรักษ์และครอบครัว ที่นายศิวรักษ์ได้รับอิสรภาพและเดินทางกลับมาโดยสวัสดิภาพ จากนั้นได้อธิบายรายละเอียดกระบวนการช่วยเหลือนายศิวรักษ์ทันทีที่ทางการไทยทราบข่าวว่าถูกจับกุม โดยนายกษิตได้ยืนยันว่าได้สั่งการให้ทางกระทรวงฯให้ความช่วยเหลือทางการกงสุลแก่นายศิวรักษ์ และอำนวยความสะดวกแก่ครอบครัวของนายศิวรักษ์อย่างดีที่สุดในทุกทางที่ทำได้ นอกจากนี้ ยังได้ให้ความช่วยเหลือผ่านช่องทางอื่นๆทุกทาง ทั้งการประสานงานกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาทนายความ และองค์การฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ รวมถึงกระทรวงยุติธรรม อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศก็ต้องเคารพการตัดสินใจของนายศิวรักษ์และครอบครัวด้วย ในกรณีที่นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ ได้ตัดสินใจไปประสานงานผ่านพรรคเพื่อไทยให้ช่วยเหลือบุตรชาย ขอเปลี่ยนทนายความใหม่ เปลี่ยนแนวทางการสู้คดีเป็นการไม่ยื่นขอประกันตัว และยอมรับคำตัดสินของศาลโดยไม่อุทธรณ์

        นายกษิต ยังระบุด้วยว่า ทางกระทรวงฯไม่เคยกล่าวหาว่านายศิวรักษ์และครอบครัวจัดฉากสร้างเรื่องให้เกิดปัญหาขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ทุกระดับของกระทรวงฯได้ยืนยันตลอดว่า นายศิวรักษ์เป็นคนไทยคนหนึ่งที่ไปประสบความเดือดร้อนในต่างประเทศ ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือด้านการกงสุลและการคุ้มครองดูแลผลประโยชน์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐอย่างเต็มที่ และทางกระทรวงฯ ยืนยันที่จะทำงานเพื่อดูแลช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศต่อไป

        ส่วนความพยายามของบางฝ่ายในประเทศไทยที่จะกล่าวหาว่ามีการสั่งการจากกรุงเทพฯให้นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ดำเนินการจารกรรม โดยใช้นายศิวรักษ์เป็นเครื่องมือนั้น ตนยืนยันว่า ไม่เคยสั่งการใดๆให้นายคำรบไปจารกรรมในกัมพูชาหรือดำเนินการใดๆที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ทางการทูต สำหรับการเรียกร้องให้นายคำรบออกมาชี้แจงนั้น ตนเห็นว่าไม่ใช่แนวปฏิบัติของกระทรวงการต่างประเทศที่จะให้ข้าราชการออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนในเรื่องการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ประจำของตัวเอง นอกจากนี้ นายคำรบและนายศิวรักษ์เป็นผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเหยื่อที่ต้องได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยเฉพาะเมื่อมีการนำไปใช้เป็นประเด็นทางการเมือง โดยตัวนายคำรบต้องถูกประกาศให้เป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาจากการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติของตัวเอง ต้องถูกส่งตัวกลับประเทศไทย ซึ่งตนทราบว่านายคำรบรู้สึกเสียใจกับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับนายศิวรักษ์จากเหตุการณ์นี้ และเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของนายศิวรักษ์