สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิกฤติการเมืองไทยในช่วงนี้ โดยพบว่ามี 5 ปัจจัยด้วยกันที่ทำให้การเมืองไทยสุ่มเสี่ยงต่อการกลับไปสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง
โดยสรุป 5 ปัจจัยนั้นได้แก่ 1.ความไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นแกนนำ 2.การชุมนุมที่ยืดเยื้อของกลุ่มคนเสื้อแดงที่คาดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน 3.หนังยาวชุด "มาบตาพุด" 4.ปัญหาคอร์รัปชั่นและธรรมาภิบาล และ 5.ไฟใต้ ทั้งหมดนี้ถูกวิเคราะห์มาในช่วงที่รัฐบาลประกาศว่าพร้อมจะแถลงผลงานในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาพอดิบพอดี !!
รัฐนาวี โดย "กัปตัน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" พร้อมแถลงข่าวโชว์ผลงาน 1 ปีในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ รวดเร็วปานกามนิต แต่...อะไรล่ะที่เป็นชิ้นงานที่ยืดอกได้ว่าเป็น "ผลงาน" ของรัฐบาล ชนิดที่จับต้องได้หรือเห็นผลกันแล้วยังคงเป็นคำถามอยู่?
หากจะถามถึงชื่อโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลจัดสรรมานั้น คงเรียงได้เป็นหลายร้อยชื่อๆ อาทิ โครงการเช็คช่วยชาติ, โครงการไทยเข็มแข็ง, เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ, ต้นกล้าอาชีพ, เรียนฟรี 15 ปี ฯลฯ ก็กลับปรากฏรายละเอียดของบางจุดที่น่าฉงน ยังคงมีกลิ่นคาวฉาวของการทุจริตอยู่ บางชิ้นก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ และบางชิ้นก็ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจได้เห็นผลอย่างที่รัฐบาลเคยคุยไว้หนักหนา
ถามว่า... ทุกวันนี้ ผู้คนที่ได้รับเช็ค 2,000 บาทไปนั้น จวนจะครบปีดีแล้ว รู้สึกบ้างไหมว่ามันช่วยเสริมสภาพคล่องได้จริง !! ถ้าเป็นจริงเหตุใดจึงไม่มีการแถลงข่าวชี้แจงให้เห็นชัดถึงผลความสำเร็จ ตามที่วิสัยปกติ
แม้แต่นโยบายการเสริมสร้างความสมานฉันท์ และความสามัคคีของคนในชาติ ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลจัดให้เป็น "นโยบายเร่งด่วน" ในข้อที่ ๑.๑.๑ ด้วยซ้ำ ซึ่งตัวนายกรัฐมนตรีเองก็ยังยอมรับว่า ตนไม่พอใจกับสภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอยู่ในสังคมขณะนี้
... ยอมรับยังแก้ปัญหาเรื่อง "สี" ไม่สำเร็จ ...ลูกผู้ชาย ยืดอกดี! แต่ไม่ได้ช่วยให้ปัญหาสะสางไปได้ อย่างที่นายกรัฐมนตรีได้ตอบ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย จึงเป็นโจทก์ที่ยากยิ่งสำหรับทุกคนที่มานั่งเก้าอี้นี้
อย่าไรก็ตาม ปัญหาอื่นที่ตัวนายกรัฐมนตรี แก้ได้ด้วยตัวนายกรัฐมนตรีเอง พร้อมกับแกนนำในพรรคและรัฐบาล อาทิ
การแต่งตั้ง ผบ.ตร. ที่ยังคงยืดเยื้อเป็นหนังยาวไม่จบสิ้นเสียที การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เป็นเหมือนละครน้ำเน่าแย่งเค้กกันไปมาอยู่ตลอดเวลาในทุกยุคสมัย ปัญหาคอร์รัปชั่นในโครงการต่างๆ อาทิ โครงการพอเพียง และ ไทยเข้มแข็ง เป็นต้น หรือแม้แต่ "ปลากระป๋องเน่า" ที่ดูเหมือนจะเงียบหายไปกับการเวลา (เหมือนเช่นเคย) ก็สามารถจัดการแก้ไขได้ทันที ติดอยู่ที่ว่ามีความจริงใจในการแก้ปัญหามากแค่ไหน
ส่วนปัญหาเรื่อง "มาบตาพุด" นั้น ก็ดูเหมือนว่าจะ "สวยรูป" มีการจัดกรรมการชุด "อานันท์ ปันยารชุน" ที่เปรียบเหมือน "ชุดสูทผูกไท" แต่งโชว์หน้าตาเพื่อให้ดูดีอวดคนอื่นได้ แต่ทว่า...ผลลัพธ์นั้นยังอีกไกลที่จะพิสูจน์ว่ารัฐบาลนี้จริงใจ หวั่นว่าจะเหมือนกับเมื่อครั้งนำนายอานันท์มาแก้ปัญหาใต้ ที่สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นคลื่นกระทบฝั่งเช่นทุกครั้งไป
กับการแก้ปัญหาใต้ ยังดีที่รัฐบาลสามารถดึงผู้นำมาเลย์มาตบแต่งให้ดูดี โชว์ข่าวออกภาพแก่สื่อในและนอกประเทศได้ว่ามีความจริงใจแก้ปัญหาจริง ..."ขายผ้า" ออกได้หนึ่งเรื่อง
เหล่านี้หากวิเคราะห์ตาม "รอยเตอร์" ก็ดูจะวิเคราะห์ได้ตรงและถูกต้องว่ารัฐบาลยังต้องเผชิญปัญหาและอุปสรรคสำคัญทั้ง 5 ประการใหญ่ๆ อยู่ การที่จะแถลงข่าวถึงผลงานรัฐบาล และบอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า "ประสบความสำเร็จ" นั้นดูจะยากยิ่งเต็มที
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลโดยการนำของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ดูเหมือนจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะฝันฝ่าอุปสรรคเหล่านั้นไปให้ได้ บางทีตัวนายกฯ เองอาจจะต้องหันกลับมามองรอบข้างว่าที่อยู่ข้างตัวเรานั้น เป็นคน "ช่วยพาย" หรือ "ราน้ำ" บนรัฐนาวานี้กันแน่ !!
จับตา 23 ธ.ค.นี้ มี "ของดี" ก็งัดมาโชว์กัน
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday