นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ออกหนังสือแถลงการณ์เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม
แสดงความยินดี นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ได้รับอิสรภาพจากการถูกคุมขังในคุกเขมร ยืนยันที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว และไม่เคยกล่าวหาว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการจัดฉากแต่อย่างใด ย้ำกระทรวงฯ ไม่เคยสั่งการจารกรรมข้อมูล ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้ นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ออกมาชี้แจงนั้น ไม่ใช่แนวปฏิบัติที่จะให้ข้าราชการออกมาชี้แจงเอง โดยเชื่อว่าทั้ง นายศิวรักษ์และนายคำรบ ต่างตกเป็นเหยื่อที่ต้องได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยเฉพาะเมื่อมีการนำไปใช้เป็นประเด็นทางการเมือง
"เทพไท"ข้องใจมีรถเบนซ์รับนักโทษจารกรรมข้อมูลลับถึงในคุก
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทย ว่า อยากให้ทุกฝ่ายสนับสนุนแนวความคิดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คือไม่ควรขยายประเด็นนี้ให้ยืดอีก โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยอย่าฉวยโอกาสใช้เรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมือง เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยและลิ่วล้อของนายใหญ่ได้สร้างภาพจนกลายเป็นประเด็นในหน้าสื่อทำตามแผนที่ต้องการและน่าจะเพียงพอตามเป้าหมายที่นายใหญ่วางไว้แล้ว สำหรับตัวนายศิวรักษ์เอง ทุกคนก็เข้าใจว่า ไม่ได้เป็นตัวการของการจัดฉากในละครเรื่องนี้ แต่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ที่ถูกคนบางกลุ่มใช้เป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อหวังประโยชน์โดยที่นายศิวรักษ์ไม่รู้ตัว
"ภาพที่ปรากฏออกมาหลังการถูกปล่อยตัวออกจากคุก ผมไม่เคยเห็นผู้ถูกกล่าวหาในข้อหาจารกรรมข้อมูลความลับที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติใด ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงสูงสุด กลับมีรถเบนซ์เอสคลาสของรัฐบาลกัมพูชาจัดให้ไปรับถึงหน้าคุกเปรซอ รวมทั้ง สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกฯกัมพูชา ยังเปิดคฤหาสน์ส่วนตัวต้อนรับรับรองด้วยตนเอง และยังมีการพูดคุยลูบหน้าลูบหลังอย่างสนิทสนมเป็นกันเอง ถึงขนาดเรียกแทนตัวเองว่า อา และเรียกนายศิวรักษ์ว่า หลานทุกคำ สุดท้ายยังมีไมตรีจิตสั่งลาว่า อนุญาตให้กลับมาทำงานในประเทศกัมพูชาได้อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องผิดปกติที่ไม่เคยพบเคยเห็นประเทศใดในโลกที่ปฏิบัติต่อนักโทษหรือผู้ถูกกล่าวหาในข้อหาจารกรรมข้อมูลความลับเช่นนี้" นายเทพไท กล่าว