ใครติดเงื่อนไขน้อยสุด

แม้จะเข้าใจว่ามันเป็นไปตามสัจธรรม อำนาจวาสนาไม่จีรังยั่งยืน


แต่ก็อดใจหายแทนไม่ได้กับข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่ของทำเนียบรัฐบาลได้ลบชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากตู้พลาสติกใสหน้าบ้านพิษณุโลก ที่เดิมในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ได้ใช้เป็นตู้รับเรื่องราวร้องทุกข์ต่างๆของประชาชน

คนเก่าถูกลบชื่อออกไป นาทีนี้ก็รอลุ้นแค่โฉมหน้านายกรัฐมนตรีใหม่

ใครจะรับอาสาแบกเหล็กร้อนๆ


อย่างที่รู้ๆกัน โจทย์ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) อยู่ที่ต้องหาคนที่มีภาพของความเป็นกลาง เป็นที่ยอมรับของสังคมทุกภาคส่วน มีฝีมือในการบริหารด้านเศรษฐกิจและกฎหมาย


มือโปรด้านเศรษฐกิจกับเซียนกฎหมายพอหาได้ไม่ยาก


แต่เงื่อนไขหินสุดเลยก็คือ คนเป็นกลาง ในยามที่คนในบ้านเมืองแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

เพราะในคำจำกัดความของคำว่าเป็นกลางในที่นี้ ต้องหมายถึงทุกฝ่ายให้การยอมรับ ในความเป็นกลางจริงๆ ไม่แอบอิงหรือตั้งแง่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

ไม่ใช่เป็นกลางแค่ในสายตาของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเก่าอย่างเดียว


แต่ต้องรวมถึงในสายตาของฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย

นี่แหละที่ต้องกรองกันหลายๆชั้น

จากโผที่ออกมาเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ คุณสมบัติล้วนดีเด่นดังด้วยกันทั้งนั้น เช็กทางลึกไปยืนยันได้ว่า ทุกชื่อล้วนถูกยกขึ้นมาถกกันในวงคณะปฏิรูปฯ


เอกซเรย์กันทีละชื่อ


นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ไม่มีใครติดใจเรื่องเกียรติประวัติ ฝีมือทางกฎหมาย เพียงแต่ย้อนไปดูผลการตัดสินของศาลปกครองในหลายๆ คดีทั้งในเรื่องการแตะเบรกแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หรือแม้แต่คดีเลือกตั้งของอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ส่วนใหญ่ส่งผลด้านลบต่อรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ


เช่นเดียวกับ หม่อมอุ๋ย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทุกฝ่ายยกนิ้วให้กับฝีมือด้านเศรษฐกิจเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก ประทับตราธรรมาภิบาล โดดเด่นเรื่องความโปร่งใส

แต่มุมมองด้านเศรษฐกิจที่ออกมามักจะย้อนศรกับรัฐบาลพรรคไทยรักไทยตลอด


ภาพที่ออกมาจะถูกมองเป็นการหักดิบ ตั้งใจไล่บี้ล้างบาง กันมากเกินไป

เอาเป็นว่า ชื่อเหล่านี้ตัดออกจากบัญชีไปได้ โดดเด่น แต่ไม่ชัดกับคำว่า เป็นกลาง

โฟกัสอยู่ที่ 2 ชื่อสุดท้าย


แน่นอน ถ้าจะเอาทั้งภาพในสายตาต่างชาติและเสียงเชียร์ในประเทศไทย ชื่อของนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) ครบเครื่องกว่าใคร

ภาพลักษณ์สวยหรู


จะติดนิดหน่อยก็ตรงที่เคยเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย


เคยประทับยี่ห้อพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน


และก็ไม่แน่ใจระหว่างอนาคตความก้าวหน้าในเวทีโลกกับการกลับมา รับเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเพื่อกู้สถานการณ์ของประเทศภายหลังการรัฐประหาร

นายศุภชัยจะเลือกอย่างไหน

มาถึงคิวของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ชื่อนี้ไม่ต้องสาธยายกับภาพของความโปร่งใส ระดับจริยธรรมเกินมาตรฐาน

ไม่เอียงฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด



ที่สำคัญ การได้คนระดับองคมนตรีมาเป็นผู้นำแก้วิกฤติร้าวฉานของคนในชาติ กู้สถานการณ์ความแตกแยกของบ้านเมือง

ย่อมได้รับความร่วมมือจากคนไทยทุกภาคส่วน

แต่จะมีปัญหาก็ตรงที่ผ่านมาไม่เคยมีมาก่อน

นายกรัฐมนตรีที่มาจากองคมนตรี

อย่างไรก็ตาม มาถึงนาทีนี้ ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน บ้านเมืองชะงักมานานเต็มที จะหาตัวเลือกที่ครบเครื่องจริงๆคงไม่ได้

ดูแล้วใครที่ติดเงื่อนไขน้อยสุดนั่นแหละ ใช่เลย.



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์