ชัยอนันต์เสนอภาคประชาชน ตั้งสภาพลเมืองเป็นรัฐบาลเงา

ชัยอนันต์ มองการเมืองหลังเลือกตั้ง 2 เม.ย. บทบาทภาคประชาชนจะต้องมีมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการตรวจสอบรัฐบาล เพราะระบบรัฐสภาจะไม่มีความหมายอีกต่อไป เนื่องจากมีพรรคการเมืองใหญ่เพียงพรรคเดียว เสนอตั้งสภาพลเมืองคู่ขนานไปกับการตั้งรัฐบาลใหม่

วันที่ 7 มี.ค. นายชัยอนันต์ สมุทวณิช ผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัย กล่าวในระหว่างการสัมมนาวิชาการ การเมืองภาคประชาชนกับการควบคุมความไม่ชอบธรรมในการใช้อำนาจรัฐ จัดโดยสภาคณาจารย์ นักศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โดยระบุว่าบทบาททางการเมืองของภาคประชาชนในระบอบประชาธิปไตยขยายตัวกว้างขึ้นกว่าในสมัย 30-40 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ใช่การมีส่วนร่วมของประชาชนโดยตรง

การชุมนุมเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นที่เห็นทั่วไปนี้ แท้จริงแล้วยังมีกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ทำหน้าที่เป็นสายพานเชื่อมโยงสถานการณ์ทางการเมืองกับประชาชน อย่างไรก็ตาม หลังการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายนเป็นต้นไป บทบาทของภาคประชาชนจะต้องมีมากขึ้น เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาล เพราะระบบรัฐสภาจะไม่มีความหมายอีกต่อไป เนื่องจากจะมีพรรคการเมืองใหญ่เพียงพรรคเดียว ดังนั้น ควรจะต้องตั้งสภาพลเมืองคู่ขนานไปกับการตั้งรัฐบาล

การเคลื่อนไหวของประชาชนหรือการตรวจสอบไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องทำจริงจัง มีองค์กร ถ้าเขาเปิดสภาพรรคเดียว ภาคประชาชนที่เป็นพันธมิตรก็เอาตัวแทนของตนเองเปิดสภาพลเมืองขึ้นมา เลือกตัวนายกสภาพลเมืองเหมือนเลือกนายกรัฐมนตรี เขาประชุมเราก็ประชุม ออกนโยบายอะไรมาเราก็มีคณะศึกษาจริงจัง นายชัยอนันต์ กล่าว

นายชัยอนันต์ ยังกล่าวถึงการร่วมลงชื่อยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานนายกรัฐมนตรีว่า เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ ไม่ใช่เรื่องผิด หรือบังอาจ มิควร ซึ่งตนขอร่วมต่อสู้เพราะไม่ต้องการเห็นอีก 20 ปีข้างหน้าคนไทยจะไม่มีความสุข อีกทั้งการเคลื่อนไหวของประชาชนในระยะนี้เป็นการป้องกันในระยะยาว เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ได้อีกนาน ถ้า 20 ปี อายุก็ 70 ปี แต่คนที่อายุ 80 ปี ขณะนี้ อีก 20 ปีจะอยู่ถึง 100 ปีหรือ