ชี้ 'แม้ว' สอบสวนด้วยตัวเองขัดหลักสากล โต้นักวิชาการ ไม่ใช้หลักวิชาการวิจารณ์ผลงานรัฐบาล
วันนี้(14 ธ.ค.) ที่รัฐสภา นายแพทย์บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความยินดีที่ นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกทางกัมพูชาจับกุมตัว ซี่งขณะนี้ได้รับอิสระภาพ อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกฝ่ายจับตามองและให้สังคมร่วมตรวจสอบว่า คดีของนายศิวรักษ์ เป็นการจัดฉากหรือไม่ ส่วนที่มีการเสนอข่าวว่าตนเปรียบเทียบการขออภัยโทษของนายศิวรักษ์ กับกลุ่มนปช. เกี่ยวกับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีความคล้ายคลึงกันนั้น ไม่เป็นความจริง และขอยืนยันว่า กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับกรณีของนายศิวรักษ์ได้
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีของ นายศิวรักษ์ ไม่เคยพูดถึงความสัมพันธ์กับครอบครัวของนายศิวรักษ์ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความรู้จักเป็นการส่วนตัวกับบิดาของนายศิวรักษ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติ และกรณีที่พรรคเพื่อไทยเป็นผู้ริเริ่มการพูดถึงเรื่องการขออภัยโทษก่อนที่จะมีการดำเนินการ รวมทั้งการประสานงานเพื่อขอไม่ประกันตัว และขอเปลี่ยนตัวทนายความ ก่อนที่จะมีพิจารณาโทษถึง 2 วัน และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สอบสวนนายศิวรักษ์ ด้วยตนเอง ถือว่าขัดกับหลักสากลมีการหวังผลอะไรหรือไม่ ฝ่ายการเมืองจะเตรียมใช้เป็นเครื่องมือสร้างความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาหรือหวังผลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สื่อต่างประเทศลงบทความวิเคราะห์ของนักวิชาการไทย ที่ระบุว่า การทำงานของรัฐบาลในรอบ 1 ปี ว่าการบริหารงานไม่มีผลงานเท่าที่ควรนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะนักวิชาการและผู้ที่ติดตามความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ให้การยอมรับว่าการบริหารงานของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยเฉพาะได้รับการยอมรับอย่างสูงในเวทีต่างประเทศ การให้ความเห็นดังกล่าวเป็นการขัดหลักวิชาการ ซึ่งจากการสำรวจความเห็นและดัชนีความเชื่อมั่นต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาลได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ใน 4 เรื่อง ที่เห็นอย่างชัดเจน คือ 1.การแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้เป็นบวกเป็นครั้งแรก 2.เรื่องการแก้ปัญหาความสมานฉันท์ ซึ่งรัฐบาลไม่ใช้ความรุนแรงในการโต้ตอบ 3.การบริหารนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้อยู่นอกรัฐบาล เหมือนเช่นรัฐบาลที่ผ่านมา และ 4.นโยบายระหว่างประเทศ ทั้งทวิภาคี และพหุภาคี นายกฯอภิสิทธิ์ ก็ได้เป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายให้ประสบความสำเร็จในหลายกรณี ดังนั้น ผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ควรมีหลักวิชาการ และใช้หลักจริยธรรมในการเก็บรวบรวมข้อมูลมากกว่านี้ เพราะผลสรุปดังกล่าวสวนทางกับข้อเท็จจริง
นพ.บุรณัชย์ กล่าวถึงกรณีที่นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ ออกมาเรียกร้องให้นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ออกมารับผิดชอบต่อนายศิวรักษ์ ว่า นายศิวรักษ์ และให้นายคำรบ ต่างก็ปฏิบัติงานไปตามหน้าที่ แต่หากไม่มีเรื่องการเมือง ทั้งคู่ก็คงไม่มีความผิด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
