นายจตุพร พรมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ถึงการจับกุม 5 ผู้ต้องหา ชาวเบลารุสและคาซัคสถาน ฐานขนอาวุธสงครามข้ามชาติ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าววันที่ 14 ธันวาคม
โดยถูกตำรวจไทยจับกุมตัวที่สนามบินดอนเมืองว่า ตนมีข้อมูลของการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คนว่า ป็นความร่วมมือของรัฐบาลไทยกับรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา มีการตั้งรางวัลนำจับ 7,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จึงอยากตั้งคำถามไปยังรัฐบาล ขอให้ช่วยชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องเงินรางวัลนำจับดังกล่าวว่าเป็นความจริงหรือไม่ หากเป็นเรื่องจริง ต้องการถามว่าใครเป็นผู้รับ
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ตนขอถามถึงผลของความร่วมมือว่า จะมีความคุ้มค่าหรือไม่ เนื่องจากมีความเป็นห่วงว่า ประเทศไทยอาจถูกตอบโต้จากกลุ่มผู้ไม่หวังดี
ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ไทยจับเครื่องบินสัญชาติจอร์เจียที่ขนอาวุธสงครามจากประเทศเกาหลีเหนือผ่านเข้ามาเติมน้ำมันที่ประเทศไทยจนหลาย ฝ่ายกังวลว่าอาจจะเป็นการชักศึกเข้าบ้าน ว่า ตนได้รับรายงานมาตลอด เราได้ระมัดระวังก่อนที่จะดำเนินการอะไร โดยได้ประชุมปรึกษาหารือ ดูทั้งกฎหมายของไทย และกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งมติของสหประชาชาติ เมื่อไม่มีทางเลือกอย่างอื่น ก็ต้องดำเนินการ ในการดำเนินการนั้นยืนยันว่าได้ทำถูกต้องตามขั้นตอนทุกอย่าง และพร้อมที่จะเปิดเผยข้อเท็จจริงเพื่อให้ทุกประเทศที่เกี่ยวข้องทราบว่า ประเทศไทยทำตามหน้าที่ เรื่องนี้มีผู้เกี่ยวข้องทั้งประเทศเจ้าของเครื่องบิน ประเทศที่ลูกเรือ และกัปตันถือสัญชาติ และประเทศที่ขายสินค้า รวมทั้งประเทศที่ซื้อสินค้า ที่ยังไม่แสดงตัวออกมา
เมื่อถามว่าแต่ในจุดหมายปลายทางการบินต้องมีการระบุประเทศที่จะเดินทางไป นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องรอให้เจ้าหน้าที่นำหลักฐาน รายละเอียดต่างๆมารายงานก่อน จึงจะเปิดเผยให้ทราบได้บ่ายวันที่ 14 ธันวาคม
สำหรับเรื่องอาวุธต่างๆนั้นจะดำเนินการอย่างโปร่งใส แต่ขณะนี้ยังตรวจสอบและจัดทำบัญชีได้ไม่ครบ เพราะมีเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลา เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าประเทศไทยจะถูกใช้เป็นเครื่องมือเนื่องจากทางสหประชาชาติยังไม่มีปฏิกิริยาเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย นายสุเทพ กล่าวว่า ในบันทึกของสหประชาชาติกำหนดไว้ชัดเจนว่าในกรณีนี้ประเทศที่เป็นเส้นทางผ่าน ที่ใช้ขนส่งจะต้องทำอย่างไรบ้าง โดยมีการระบุไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว และเมื่อดำเนินการเสร็จก็ต้องรายงานกลับไปที่สหประชาชาติด้วย หลีกหนีไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีจุดจบอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย คนที่รับภาระหนักคือสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ส่วนตำรวจนั้นเป็นผู้ช่วย อสส. ในการสืบสวน รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
