คมชัดลึก : "พร้อมพงศ์-เพื่อไทย"กุมประเด็นเลี้ยงข่าวช่วย"ศิวรักษ์" ออกลูกประมาทไม่ทันเขมรให้อภัยโทษก่อน เพื่อไทยพล่านส่งเอสเอ็มเอสให้สื่อวิ่งทำข่าว แฉ เด็จพี่-ติ๊งเหล่ หักกันเอง แย่งซีนกันนำ เหล่ โวยพร้อมพงศ์ ทำแม้ว เจ๊ง “โฆษกเพื่อไทย" ยื่นหนังสือจิ๋วถึงฮุนเซน ระบุให้เห็นแก่ความสัมพันธ์สองประเทศ อัดติดขัดเพราะรัฐบาลขวางลำ
(11ธ.ค.) สำหรับการประสานงานให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรคนไทย ที่ถูกศาลกัมพูชาพิพากษาสั่งจำคุก7ปีและปรับอีก 10,000,000 เรียล นั้นมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงมาโดยตลอด จนมาล่าสุดนายศิวรักษ์ ได้รับการอภัยโทษ ทันทีที่ผู้สื่อข่าวทราบข่าวดังกล่าวแล้ว ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์บางสถานีในประเทศไทย ที่ได้ปักหลักประเทศกัมพูชา ได้ขอสัมภาษณ์นายศิวรักษ์ แต่นายศิวรักษ์ระบุว่า ต้องขออนุญาตนายพร้อมพงศ์ก่อน เนื่องจากเป็นข้อตกลงก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวก็ได้พยายามขอโทรศัพท์นางสิมารักษ์ ซึ่งนางสิมารักษ์ได้ระบุกลับมาว่า ขอให้นายพร้อมพงศ์เป็นผู้ให้รายละเอียดเพียงผู้เดียว ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวเคยขอเบอร์โทรศัพท์ นายเขียว สัมโบ ทนายความของนายศิวรักษ์ ที่เป็นชาวกัมพูชา แต่นายพร้อมพงศ์ได้ปฏิเสธ พร้อมกับระบุว่า มีอะไรขอให้ผู้สื่อข่าวโทรมาหาตนดีกว่า
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 ธค. พรรคเพื่อไทยได้แจ้งกำหนดการที่นายพร้อมพงศ์ จะเดินทางไปยื่นหนังสือขออภัยโทษ ในเวลา9.30น ที่สถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย โดยแจ้งมายังผู้สื่อข่าวประจำพรรคเพื่อไทย แต่ในเวลาไล่เลี่ยกัน พรรคได้แจ้งยกเลิกกะทันหัน โดยไม่ได้แจ้งเหตุผล ก่อนที่จะมาแจ้งกำหนดการนี้อีกครั้งในเวลา 14.00น. ของวันที่11ธ.ค. เพื่อให้ไปทำข่าวนายพร้อมพงศ์ที่จะยื่นหนังสือต่อสถานทูตกัมพูชาในเวลา 15.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ค่อนข้างฉุกละหุกเนื่องจากช่วงไล่เลี่ยกัน มีข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า กัมพูชาได้อภัยโทษให้นายศิวรักษ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยที่พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ
มีรายงานด้วยว่า ทันที่แกนนำพรรคเพื่อไทยทราบข่าวได้สั่งการให้นายพร้อมพงศ์ รีบไปยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ ที่สถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยให้เร็วที่สุด เพื่อให้กระบวนการช่วยเหลือนายศิวรักษ์ เป็นไปอย่างสมบูรณ์ มิฉะนั้น อาจถูกมองได้ว่ากัมพูชาล้ำหน้าพรรคเพื่อไทยไปหนึ่งก้าว
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าในการช่วยเหลือนายศิวรักษ์ของพรรคเพื่อไทย ได้เกิดความขัดแย้งระหว่างนายนพดล กับ นายพร้อมพงศ์ เพราะนายนพดลเห็นว่านายพร้อมพงศ์พยายามแย่งซีน ชิงการนำมากเกินไปจนบางครั้งเพลี่ยงพล้ำ เพราะบางครั้งมีการแปลงสารการให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะที่นายพร้อมพงศ์ อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประสานงานทางโทรศัพท์กับสมเด็จฮุนเซนแล้ว แทนที่จะกล่าวอ้างว่าเป็นเพราะสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ กับ สมเด็จฮุนเซ็น ทำให้ถูกมองได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นฝ่ายรุกแก้ปัญหามากเกินพอดีจนอาจถูกฝ่ายตรงข้ามนำไปโจมตีได้
มีรายงานข่าวจากคนใกล้ชิดนายศิวรักษ์ เปิดเผยว่า นายเขียว สัมโบ ทนายความชาวกัมพูชา ได้ให้นายศิวรักษ์ ลงนามในหนังสือยอมรับผิด หลังจากนั้นนำหนังสือส่งไปให้สมเด็จฮุนเซน เพื่อส่งต่อไปให้กราบบังคมทูล ขอพระราชทานอภัยโทษ ตั้งแต่วันที่9ธ.ค.และในเวลาเดียวกันมีการประสานงานจากพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการภายในเพื่อขอช่วยเหลือ จึงทำให้มีการอภัยโทษอย่างรวดเร็ว
“โฆษกเพื่อไทย"ระบุยื่นหนังสือบิ๊กจิ๋วถึงฮุนเซนแล้ว
เมื่อเวลา 15.30 น. ที่สถานทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย นายพร้อมพงศ์ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ได้ลงนามถึงสมเด็จฮุนเซน เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ทางกัมพูชาเร่งรัดขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ผ่านทางนายโอก โสพน ( Ouk Sophon) ที่ปรึกษาสถานทูต ปฏิบัติหน้าที่เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย เป็นผู้รับหนังสือ โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องเลื่อนการยื่นหนังสือจากเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะยื่นเมื่อวันที่ 10ธ.ค. มาเป็นวันนี้ เนื่องจากสมเด็จฮุนเซน ติดภารกิจร่วมเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศลาว
นอกจากนี้ยังมีปัญหาติดขัดเพราะมีบุคคลในรัฐบาล เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พยายามที่จะให้ข่าวว่าการช่วยเหลือของพรรคเพื่อเป็นการจัดฉากสร้างภาพ ทำให้ทางกัมพูชารู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดเหล่านั้น ส่งผลให้การประสานงานของพรรคเพื่อไทยเกิดติดขัดไปบ้าง แต่ทางกัมพูชาก็เข้าใจและพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ ทั้งนี้ที่สื่อต่างประเทศนำเสนอข่าวว่ากษัตริย์กัมพูชาได้พระราชทานอภัยโทษ อาจเป็นหนังสือที่ฝ่ายทนายของนายศิวรักษ์ เป็นผู้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ จึงทำให้มีการนำเสนอข่าวออกมา ส่วนข้อเท็จจริงว่านั้นต้องรอให้ทางกัมพูชา แถลงอย่างเป็นทางการก่อน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวได้บรรยายเหตุผลการขอพระราชทานอภัยโทษกรณีที่ศาลกัมพูชาสั่งจำคุกนายศิวรักษ์ เป็นเวลา 7 ปี และปรับเป็นเงินจำนวนมานั้น ทำให้ครอบครัวของนายศิวรักษ์ ได้รับความลำบาก เนื่องจากนายศิวรักษ์ เป็นเสาหลักที่ต้องส่งเสียแม่และน้องชาย จึงขอให้ทางสมเด็จฮุนเซน เห็นแก่ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพล.อ.ชวลิต และความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ พิจารณาให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามหากนายศิวรักษ์ ได้รับพระราชทานอภัยโทษ และเดินทางกลับประเทศไทย ทางพรรคจะหารืออีกครั้งว่าจะไปรับถึงประเทศกัมพูชาหรือไม่ เพราะไม่ต้องการให้ถูกโยงเป็นประเด็นการเมือง