เมื่อเช้าวันที่ 9 ธันวาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
เดินทางลงจังหวัดนราธิวาส เพื่อร่วมพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-มาเลย์ ที่ จ.นราธิวาส โดยมั่นใจการลงพื้นที่ครั้งนี้มีมากกว่าความหมายเชิงสัญลักษณ์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงเรื่องคดีของ "ศิวรักษ์ ชุติพงษ์ " วิศวกรไทยว่า รัฐบาลพร้อมให้การช่วยเหลือ อยู่ที่ครอบครัวต้องตัดสินใจจะยื่นอุทธรณ์ หรือขออภัยโทษ และไม่กังวลหากครอบครัวของศิวรักษ์ จะขอความช่วยเหลือจากพรรคเพื่อไทย รัฐบาลต้องการให้เจ้าตัวได้รับอิสรภาพ รัฐบาลชี้แจงเรื่องนี้ได้
ด้านนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันกระทรวงต่างประเทศพร้อมให้การช่วยเหลือ “ศิวรักษ์”วิศวกรไทย หากร้องขอ ส่วนเรื่องคดีให้ครอบครัวเป็นผู้ตัดสินใจจะดำเนินการอย่างไร
ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวรายจากที่ทำการพรรคเพื่อไทยว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 ธันวาคม
หลังจากศาลกัมพูชามีคำตัดสินลงโทษจำคุกนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ พร้อมปรับเงิน 1 แสนบาท ปรากฏว่านางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ ได้โทรศัพท์จากกัมพูชา มายังนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เพื่อแถลงข่าวผ่านการโฟนอิน โดยนางสิมารักษ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณสื่อและคนไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ครอบครัวตน หลังจากนี้คงไม่มีที่พึ่งใดอีกแล้วนอกจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย ให้ช่วยลูกของตนให้ได้รับอิสรภาพด้วยการขอพระราชทานอภัยโทษ โดยตนจะรีบส่งสำเนาคำพิพากษาทางแฟกซ์มายังพรรคเพื่อไทยในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค.) เพื่อขอฝากให้นำส่งถึงพล.อ.ชวลิต ขณะที่คืนนี้ (8 ธ.ค.) ตนก็จะหารือกับทนายความถึงขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษ
"ขณะนี้สภาพจิตใจของคนในครอบครัวย่ำแย่ที่สุด คุณแม่กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เมื่อเห็นลูกถูกพันธนาการ สื่อมวลชนที่เฝ้าติดตามทำข่าวก็ได้ฟังอย่างหมดเปลือก สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดิฉันอดทนอดกลั้นมานานไม่เคยปริปากพูด จนกระทั่งลูกชายได้ให้การในชั้นศาล ดิฉันขอถามไปยังคุณคำรบ (นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานทูตไทย ในกัมพูชา) ด้วยว่าคุณไม่โทรศัพท์หาลูกชาย เขาก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้ ตอนนี้คุณคำรบหายไปอยู่ที่ไหนคะ มาช่วยกันรับผิดชอบด้วย แม่รับไม่ได้ที่เห็นลูกถูกใส่กุญแจมือ" นางสิมารักษ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ