ผู้สื่อข่าวรายงานจากห้องพิจารณาคดีของศาลพนมเปญ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ธันวาคมว่า
ขณะนี้ นายศิวลักษณ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย กำลังให้การ ในคดีถูกทางการกัมพูชากล่าวหา ฐานจารกรรมข้อมูลการบิน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยนายศิวลักษณ์ได้ยืนยันว่า ไม่ได้สนิทกับเจ้าหน้าที่ทางการทูตของไทยในกรุงพนมเปญ แค่รู้จักกันแค่ 2 ปีก่อน และแทบไม่ได้ติดต่อกันเลย โดยวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้โทรศัพท์มาสอบถามว่า เที่ยวบินของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้บินมาถึงจริงหรือไม่ ซึ่งตนมีสิทธิ์รับรู้ข้อมูลดังกล่าวอยู่แล้ว จึงเดินไปถามเจ้าหน้าที่ของกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่ามาจริง พร้อมเจ้าหน้าที่ก็ได้สำเนาข้อมูลดังกล่าวให้เองด้วย จึงยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจารกรรมข้อมูลการบินแต่อย่างใด แต่ถือว่าเป็นการทำงานตามปกติ
นายศิวลักษณ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย ที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมฐานจารกรรมข้อมูลการบิน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถูกควบคุมตัวมานาน 29 วันแล้ว
เดินทางถึงศาลกรุงพนมเปญ เพื่อรอการพิจารณาคดีในเช้าวันนี้ โดยคาดว่า ผู้พิพากษาจะออกนั่งบัลลังก์ในเวลาประมาณ 08.00 น.นี้ ซึ่งนางสิมารักษ์ ณ นครพนม, นายพงษ์สุรีย์ ชุติพงษ์ มารดาและน้องชาย รวมถึง นายชโลธร เผ่าวิบูลย์ อุปทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ, น.ส.มธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และนายเขียว สัมโบ ทนายความคนใหม่ เดินทางถึงศาลแล้วเช่นนั้น
วันนี้ศาลจะไต่สวนทนายความทั้งสองฝ่าย ก่อนจะมีคำพิพากษาในวันเดียวกัน สำหรับบรรยากาศ
ขณะนี้มีทั้งสื่อมวลชนและเพื่อนร่วมงานมาร่วมรอลุ้นคำตัดสินจำนวนมาก คาดว่า หากออกมาในทางที่ดี ก็จะมีการปล่อยตัวนายศิวลักษณ์ จากนั้นสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญจะแถลงข่าว แต่ถ้าเป็นทางตรงข้าม ก็อาจมีการขอพระราชอภัยโทษ ซึ่งตามกฎหมายของกัมพูชา จะต้องถูกจำคุกมาแล้ว 2 ใน 3 ก่อน แต่กรณีนี้ น่าจะเป็นกรณีพิเศษที่จะขอไปยังนายกรัฐมนตรีกัมพูชาโดยตรง
ซึ่งหนังสือพิมพ์ของกัมพูชาเช้าวันนี้ระบุว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญที่ตัดสินเกี่ยวกับคนต่างชาติ ภายใต้แรงกดดัน