ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10426
คอลัมน์ เดินหน้าชน โดย นฤตย์ เสกธีระ max@matichon.net
สารภาพตามตรงว่าส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังทหารทำการยึดอำนาจ เพราะทั้งเคยเห็นทั้งเคยอ่านล้วนแล้วแต่พบว่าจุดสุดท้ายของการเผด็จการมักลงเอยไม่ค่อยดี
แต่เมื่อฟังคำชี้แจงของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปฯแล้วก็น่าฟัง เพราะสถานการณ์ที่ผ่านมาทำให้บ้านเมืองแบ่งแยก ขัดแย้งกันรุนแรง เพราะการใช้ความได้เปรียบแทรกแซงองค์กรอิสระ เพราะการเพิกเฉยต่อการใช้อภิสิทธิ์ในการถลุงเอางบประมาณแผ่นดินไปกินกันในพรรคพวก และเพราะการใช้ความรู้ที่มากกว่าหากินในตลาดหลักทรัพย์กันจนเพลิน
ในที่สุดก็เกิดปัญหาขึ้น แก้ไขไม่ได้ ไม่ยอมถอย จนประเทศประสบกับทางตัน
ที่สุดก็ลงเอยด้วยการยึดอำนาจเพื่อล้มรัฐธรรมนูญ และร่างรัฐธรรมนูญใหม่
ผมสังหรณ์ใจเรื่องการใช้อำนาจทหารเข้ายึดอำนาจมาหลายครั้ง เพียงแต่สงสัยว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้
รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ หรือคณะทหาร
และแล้วก็พบคำตอบว่า คณะนายทหาร-ตำรวจ รวม 4 เหล่าเป็นผู้เข้ายึดอำนาจ
เมื่อยึดอำนาจแล้วก็ขอให้คืนอำนาจกลับมาโดยเร็ว อย่าอยู่เพลินเหมือนในอดีตจนกลายเป็นปัญหากับตัวเองก็แล้วกัน
วันก่อนเห็นแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.
เห็นในคณะกรรมการมีชื่อ คุณกล้านรงค์ จันทิก อดีตคู่ปรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ติดเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย
เห็นมีคำสั่งยุบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และมอบงานตรวจเงินแผ่นดินให้แก่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภายใต้การนำของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการ สตง. เป็นคนตั้งแท่นสอบทุจริตการใช้งบประมาณในเรื่องต่าง ๆ